สังคม

ยอดบริจาคพุ่งล้านกว่า ให้ยาย 4 พี่น้อง ศาลเมตตาขยายเวลา 30 วัน เจรจาขอซื้อบ้านคืน

โดย thichaphat_d

18 มิ.ย. 2564

116 views

ความคืบหน้ากรณีแม่เฒ่า 4 คน ที่เป็นพี่น้องอายุไล่เรียงกัน ตั้งแต่ 94 ปี 82 ปี 80 ปี และ 77 ปี นั่งร้องไห้วอนหน่วยงาน และผู้ใจบุญช่วยเหลือ เนื่องจากถูกเจ้าหนี้จะไล่ที่ จะต้องย้ายออกจากบ้านเมื่อวานนี้ (17มิ.ย.) หลังจากหลานชายนำโฉนดที่ดิน จำนวน 3 แปลง เนื้อที่ทั้งหมด 12 ไร่ และที่ดินบ้าน ไปค้ำประกันเงินกู้ 450,000 บาท กับเจ้าหน้าที่ เพื่อไปทำงานประเทศไต้หวัน แต่กลับถูกหลอกไม่สามารถหาเงินมาชำระคืนได้


จนเจ้าหนี้แต่งตั้งทนายมาทวงถาม และในที่สุดมีการขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวไป เมื่อปี 2562 รวม 3 แปลงเป็นเงิน 980,500 และมีส่วนต่างเงินคืนให้ลูกหนี้ จำนวน 365,000 บาท ส่วนลูกหนี้หากอยากได้บ้านคืนต้องหาเงินมาซื้อ 2 ล้านบาท ปรากฎว่าหลังเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีหลายหน่วยงานยื่นมือช่วยเหลือ


ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) นายลวง อนุเคราะห์ บุตรชายของนางโปรย อนุเคราะห์ พร้อมด้วยยายตะล่อม ทิมแย้ม และ นายสมศักดิ์ โตจริง พร้อมนายกิตตินพ สุวรรณโรจน์ ทนายความได้เดินทางไปยังศาล จ.สุโขทัย เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายระยะเวลาให้ยายทั้ง 4 และ ครอบครัวได้พักอาศัยอยู่ในบ้านเพิ่มเติมไปอีก 60 วันแล้วนั้น


ล่าสุดภายหลังออกมาจากการไกล่เกลี่ยของศาล จ.สุโขทัย โดยนายกิตตินพ สุวรรณโรจน์ ทนายความที่ดูแลคดีนี้ ได้เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวศาลได้ไกล่เกลี่ยพูดคุยกันทั้งสองฝ่ายทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยโดยที่โจทก์ก็ยินดีที่จะให้จำเลยขยายระยะเวลาออกไปได้ 30 วัน เพื่อที่จะได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่พิพาท ซึ่งจะครบกำหนดในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 16 กรกฏาคม 2564 ที่จะถึงนี้ โดยจำเลยก็มีหน้าที่จะต้องมาแถลงให้ศาลทราบเมื่อถึงเวลานั้นว่า ได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่พิพาทเรียบร้อยแล้ว


นอกจากนั้นการพูดคุยเจรจาทางโจทก์ยังได้แจ้งว่า ไม่ประสงค์จะขายทรัพย์ซึ่งลูกหนี้ก็ได้เข้าใจในเรื่องนี้ซึ่งก็ต้องหาพื้นที่ใหม่ที่จะต้องออกไปอยู่พักอาศัยตามระยะเวลาที่ได้ขยายภายใน 30 วันตามที่ศาลให้ความกรุณา


ทั้งนี้ล่าสุด มียอดเงินบริจาคช่วยเหลือจากผู้ใจบุญทั่วประเทศเป็นจำนวนเงิน 1,511,939.75 บาท


นายลวง กล่าวว่า ดีใจที่ศาลขยายระยะเวลาให้ 30 วัน แต่ทางเราก็ต้องหาทางขยับขยายที่ ถ้าเจ้าหนี้ไม่ยอมขายคืนให้ เราต้องไปหาที่อยู่ใหม่สร้างบ้านหลังเล็กๆ ให้คนแก่ได้อยู่อาศัยกัน และตนขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ได้ช่วยเหลือในการบริจาคเงิน ขอบคุณที่ให้ความอนุเคราะห์ให้ความสงสารคนแก่ในครั้งนี้


ด้านนายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอศรีสำโรง เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องของเงินที่ได้รับบริจาคมานั้นในการเบิกจ่ายยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ในขณะนี้ คือ เกิดการซื้อขายระหว่างเจ้าของที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมายกับ 4 แม่เฒ่าสามารถประนีประนอมยอมซื้อขายกันได้ในเรื่องนี้ก็น่าจะจบกันด้วยดี แต่ถ้าวงเงินที่จะซื้อคืนไม่พอหรือเจ้าของที่ดินไม่ขายก็เป็นสิทธิอันชอบธรรมของเจ้าของตามกฏหมาย


อย่างไรก็ตามยังมีช่องทางเล็กๆ ที่ให้ดำเนินการตามห้วงระยะเวลา 30 วัน ก็ต้องรีบดำเนินการ แต่ถ้ากระบวนการพูดคุยเจรจาประนีประนอมไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาประมาณไม่เกินวันที่ 24-25 มิถุนายนนี้ กระบวนการหาที่อยู่ให้ใหม่ก็จะเกิดขึ้นในจำนวนเงินที่ได้รับมา 1 ล้านเศษก็จะพอดำเนินการได้ ซึ่งเงินที่ได้รับบริจาคมาเราจะมีการดำเนินการตามกฏหมายตาม พรบ.ควบคุมการเรี่ยไร


ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลในการใช้จ่ายเงินจำนวนนี้ไม่สามารถเบิกจ่ายเองได้ การใช้เงินต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ไม่เช่นนั้นจะเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเราบอกผู้เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน ขอให้ผู้บริจาคนั้นสบายใจ โดยทางเราจะมีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลจำนวน 5 ท่าน และ ต้องมีการเบิกจ่ายได้ต้องมีลายเซ็นต์ของกรรมการจำนวน 3 ท่านเป็นอย่างน้อยขอให้ทุกฝ่ายสบายใจ


ทั้งนี้มีรายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม จะเดินทางลงพื้นที่บ้านของยาย เพื่อช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ด้วยตัวเอง ในวันที่ 25 มิ.ย.นี้


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/PrDm7vDpUqY

คุณอาจสนใจ

Related News