เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ แจงวุฒิสภา ฟาดอารมณ์เดือด ย้ำไม่เคยมีทุจริต พร้อมประกาศชัดอยู่ครบวาระแน่นอน บอกยิ่งไล่ก็ยิ่งสู้!

โดย JitrarutP

14 มิ.ย. 2564

729 views

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้า ชี้แจงการพิจารณาพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินในสถานการณ์โควิด-19 วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาท ต่อที่ประชุมวุฒิสภา โดยย้ำความจำเป็นเร่งด่วนในการกู้เงิน เพื่อสถานการณ์โควิด-19 ทั้งการเยียวยาประชาชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการระบาดในระลอกที่ 3 โดยคาดว่า จะช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวได้ 1.5-2.5 ส่วนงบประมาณสำหรับระบบสาธารณสุข คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไปแล้วกว่า 44,700 ล้านบาท ทั้งสำหรับค่าวัคซีน ,เงิน อสม. ,อุปกรณ์การแพทย์ และรถตรวจชีวนิรภัยเพิ่มเติม เป็นต้น


นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงแผนการบริหารที่ผ่านมาว่า ในปี 2564 รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถกระจายวัคซีนได้กว่า 100 ล้านโดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ภายในเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งขณะนี้ สามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้แล้วกว่า การกระจายวัคซีนสู่ประชาชน จะต้องคำนึงถึงจำนวนวัคซีนที่ประเทศไทยมี โดยจะต้องพิจารณาจากปัจจัยเบื้องต้นว่า ทุกจังหวัดจะต้องได้รับวัคซีน จังหวัดใดจะมีการแพร่ระบาดมาก ก็ต้องกระจายวัคซีนให้มากขึ้น และสำรองไว้สำหรับการป้องกันการระบาดที่อาจมีขึ้น เช่น กลุ่มแรงงาน หรือบุคลากรครูที่จะมีการเปิดภาคการศึกษา แต่ปัญหาขณะนี้ คือ การจับจองวัคซีน ของประชาชนมากกว่าจำนวนวัคซีนที่จ่ายให้แต่ละพื้นที่ และจำนวนวัคซีนทยอยแบ่งมาจากผู้ผลิต


ดังนั้น การกระจายวัคซีน จะต้องมีการปรับแผน เพื่อไม่ให้การนัดฉีดวัคซีนของประชาชน มีจำนวนมากกว่าวัคซีนที่มี จึงต้องยืดระยะเวลา เพื่อให้สอดรับกับจำนวนวัคซีนที่มี และยังยอมรับด้วยว่า ปัญหาการระบาดโควิด-19 มีปัญหาการเมืองเข้ามาแทรกทั้งหมด ทั้งการสร้างการรับรู้ และการบิดเบือน แต่ก็ให้ความเคารพทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล และพยายามแก้ปัญหา และจัดหาวัคซีนให้ได้ถึงปีหน้า พร้อมย้ำว่า มีการเจรจาจัดซื้อต่อเนื่อง และตระหนักว่า การฉีดวัคซีน จะต้องฉีดให้ทุกคน และทุกปีเหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่


พร้อมย้ำว่า รัฐบาล ไม่เคยมีการปิดกั้นการขึ้นทะเบียนวัคซีน แต่จะต้องเป็นบริษัทที่เป็นตัวแทนในประเทศไทย มาขึ้นทะเบียนต่อ อย. เพื่อขึ้นทะเบียน และการจัดซื้อ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชน ซึ่งวัคซีนไฟเซอร์ อยู่ระหว่างการต่อรองเงื่อนไขสัญญา จำนวน 20 ล้านโดส คาดว่า จะได้ในไตรมาส 3 เช่นเดียวกับวัคซีนจอห์นสัน แอนด์จอห์นสัน จำนวน 5 ล้านโดส รวมถึงวัคซีนโมเดอร์นา ,ซิโนฟาร์ม และสปุกนิค-วี โดยจะต้องมีบริษัทที่มาขึ้นทะเบียนในประเทศไทย เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมย้ำว่า รัฐบาล ไม่ได้แทงม้าตัวเดียวจัดซื้อวัคซีนเพียงชนิดเดียว แต่แทงทั้งวิน ทั้งเพรส


การชี้แจงในครั้งนี้นายกรัฐมนตรียังย้ำว่า ไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นในรัฐบาลของตน แต่หากรู้ว่ามีใครทุจริตก็ขอให้ส่งข้อมูลมา ตนจะได้ตรวจสอบ อย่าพูดปากเปล่าลอยๆเพราะมันทำอะไรไม่ได้ นายกรัฐมนตรียังย้ำว่าวันนี้ตนทำงานอย่างเป็นประชาธิปไตยเพราะมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่ยุค คสช.ที่ติงกันเยอะ แต่ก็โทษใครไม่ได้เพราะประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย แต่ก็ถามว่าประชาธิปไตยไทยจะไปทางไหนกันดีวันนี้ยังไม่พอใช่หรือไม่ จะละเมิดไรก็ได้ใช่หรือไม่ พี่จะไม่เคารพพ่อแม่ก็ได้ใช่หรือไม่


นอกจากนี้ยังย้ำว่าการทำงานทุกวันนี้ ตนไม่เคยนึกถึงตัวเองเลย ทำงานทุกวัน ขนาดฝันยังเป็นงาน ไม่เคยฝันเป็นอย่างอื่น ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าจะมีการเลือกตั้งนั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่า จะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบวาระอย่างแน่นอน


“การเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ผมต้องทำตัวของผมไม่มีเกียรติบ้าง ให้คนอื่นเขายกย่องให้คนอื่นเขาเชื่อมั่น เพราะผมตั้งเกียรติให้ตัวเองไม่ได้ เป็นเรื่องที่คนอื่นจะมอบให้ ผมทำดีก็ให้เกียรติผม ผมทำไม่ดีก็ไม่ต้องให้เกียรติผม แล้วก็ฝากไว้ด้วย ถ้ามีการเลือกตั้งในอนาคต ผมขอยืนยันว่า จะอยู่ไปจนครบนี่แหละจะได้ไม่ต้องพูดกันเสียที วันหน้าก็เลือกมาให้ดีแล้วกัน”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมาชี้แจงของนายกรัฐมนตรีวันนี้ไม่ได้มีกำหนดการล่วงหน้า และเป็นการชี้แจงครั้งแรกต่อวุฒิสภาในปีนี้ โดยนายกรัฐมาตรีมีท่าทีดุดันพอๆกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งบางช่วงนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ลืมตัว การชี้แจงของนายกฯใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง บางช่วงนายกรัฐมนตรีได้ซักถามตรงๆไปยัง ส.ว. ในที่ประชุมโดยไม่ผ่านประธานว่าใครมีเรื่องอะไรจะถามหรือไม่ ทำให้พลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา


ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม แต่ไม่ได้ทักท้วงผ่านไมโครโฟน ใช้วิธีการจดกระดาษโน้ตแจ้งนายกรัฐมนตรีเพื่อเตือนการขี้แจง แต่ปรากฎว่า นายกรัฐมนตรีนำมาอ่านต่อที่ประชุม ว่า ท่านประธานได้เตือนมาแล้ว ขอให้สมาชิกอภิปรายก่อน ส่วนเรื่องซักถามให้ไว้ทีหลังได้หรือไม่ ซึ่งนายกฯได้กล่าวตอบว่า บางคนก็ไล่ผมแล้วนี่ เพราะในนี้ก็ไม่ได้มีพวกกัน พร้อมถามกลางที่ประชุมว่า มีใครไม่เชื่อมั่นตนบ้างขอให้ยกมือ แต่ก็ไม่มี ย้ำว่า ตนเคารพ ส.ว.ทุกคน 5 ปี 7 ปี ก็ไม่เคยยุ่ง เพราะทุกคนมีวุฒิภาวะ


ก่อนระบุทิ้งท้าย “ยืนยันว่าตนไม่ได้มุ่งร้ายทำลายใคร แม้จะโดนขับไล่ทุกวัน แต่ยิ่งไล่ก็ยิ่งสู้โอเคไหม? หรือใครจะสู้กับผม ไม่มีเลยใช่ไหม”

คุณอาจสนใจ

Related News