พบอีก 2 คลัสเตอร์ใหม่ กทม. 'เขตจตุจักร-เขตสวนหลวง' - พบคนงานต่างด้าว ใช้ทางหลังแคมป์แอบเดินเข้า-ออก ไม่ฟังคำสั่งห้าม

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เผยว่า ขณะที่จังหวัดสมุทรปราการ ยังคงเฝ้าระวังโรงงานอุตสาหกรรมฟอกหนัง ที่ตรวจเชิงรุกไปแล้ว 415 ราย พบเชื้อ 27 ราย นอกจากนี้มีรายงานการพบคลัสเตอร์ในโรงงานเฟอร์นิเจอร์ส่งออก ที่ตรวจเชิงรุก 186 ราย พบติดเชื้อ 5 ราย ซึ่งจากการสอบสวนพบมีความเกี่ยวพันกับโรงงานปลากระป๋องที่บางปูด้วย

ส่วนสถานการณ์ใน กทม.ล่าสุดยังพบอีก 2 คลัสเตอร์ใหม่ คือ แคมป์ที่พักคนงาน ในกองบัญชาการศึกษา สตช. เขตจตุจักร และชุมชนหัวป่า เขตสวนหลวง ทำให้ขณะนี้มีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังรวม 52 แห่ง รวม 32 เขต

ทั้งนี้ จุดสำคัญที่ กทม.รายงานต่อที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก คือ ชุมชนสะพานหัวช้าง (ซอยเพชรบุรี) เขตราชเทวี ซึ่งได้ตรวจเชิงรุก ณ วันที่ 29 พ.ค.64 ที่ผ่านมา 734 ตัวอย่าง พบติดเชื้อแล้ว 54 ราย คิดเป็น 7.35% ตอนนี้จึงมีการเฝ้าระวังห้างสรรพสินค้าย่านราชประสงค์ - ประตูน้ำ รวมทั้งชุมชน ที่มีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ที่อาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่น และอีกจุดเป็น ชุมชนบางกะปิ ที่มีการกระจุกตัวของห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ แมคโค และตลาด รวมถึงแคมป์คนงาน ที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค ซึ่งความคืบหน้าจะรายงานข้อมูลเป็นระยะ

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังชุมชนหัวป่า ซอยอ่อนนุช 39 เขตสวนหลวง กทม. พบว่า ทุกคนคนแทบไม่มีใครอยากออกจากบ้านของตัวเองเพราะกลัวติดเชื้อ หากจำเป็นต้องออกมาก็จะใส่หน้ากากอนามัยและพกสเปรย์แอลกอฮอร์ฉีดพ่นอยู่ตลอดเวลา โดยนายวิชัย สาหร่าย อายุ 54 ปี ประธานชุมชนหัวป่า กล่าวว่า ในชุมชนมีผู้ติดเชื้อโควิด 23 ราย เข้ารับการรักษาแล้ว เหลือผู้ป่วยหญิง 1 ราย ยังอยู่ในบ้านรอเจ้าหน้าที่นำรถมารับ

ส่วนคนที่นำเชื้อมาแพร่กระจายเป็นแม่ค้าร้านขายของชำคนในชุมชนเดียวกัน ไปซื้อของจากตลาดบางกะปิและตลาดสำโรง จ.สมุทรปราการ จุดคลัสเตอร์สำคัญ ก่อนจะมีคำสั่งปิดตลาด มาจำหน่ายที่หน้าบ้านของตัวเองซึ่งเป็นตึกแถว 4 ชั้น ก่อนหน้าที่จะทราบผลเป็นบวก แม่ค้ารายนี้มีอาการเป็นไข้แต่ไม่แจ้งให้ประธานชุมชนทราบ พยายามปกปิดข้อมูล บางครั้งจะนำของพวกอาหารสดใส่รถเข็นเร่ขายในชุมชน ดึงหน้ากากอนามัยลงไว้ใต้คาง ลูกหลานแม่ค้ารายนี้ก็มักจะไปเล่นกับลูกเพื่อนบ้าน

กระทั่งคนในบ้านหลังดังกล่าวและญาติ ๆ ที่อยู่ในชุมชนเดียวกันพากันไปตรวจ เนื่องจากไปมาหาสู่สัมผัสใกล้ชิดกัน พบว่าติดโควิด 11 คน ส่วนในบ้านของแม่ค้าที่นำเชื้อมาแพร่กระจายนั้น ตอนนี้เหลือคนกักตัวอยู่ในบ้านหลังนั้นเฝ้าสังเกตอาการ 1 คน

ประธานชุมชนหัวป่า บอกว่า หากแจ้งให้ทราบตั้งแต่แรกเชื่อว่าจะป้องกันควบคุมได้ คงไม่ระบาดหนักแพร่กระจายไปติดเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ จนมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 20 คน อย่างไรก็ตามเชื้อระบาดในชุมชนร่วมอาทิตย์แล้ว ศบค.เพิ่งมาประกาศเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ขณะที่คนในชุมชนส่วนใหญ่ ต้องการให้เจ้าหน้าที่มารับผู้ติดเชื้อที่ยังตกค้างเข้าสู่กระบวนการรักษาโดยเร็วเพราะอาการเริ่มไอหนัก บางรายก่อนหน้านี้กว่ารถจะมารับรอนานถึง 3 วัน ตอนนี้ตนพยายามแจ้งให้ลูกบ้านห้ามจับกลุ่มคุยกัน ให้อยู่ในบ้านและต้องป้องกันตัวเอง หวั่นจะแพร่กระจายมากกว่านี้

ด้านนางนิตยา ศิริพลับ อายุ 51 ปี ชาวบ้านในชุมชนดังกล่าว เผยว่า ตนเปิดร้านขายลูกชิ้นทอดในหมู่บ้าน ทุกๆวันจะไปรับลูกชิ้นจากแม่ค้ารายนั้นมาขาย ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไปซื้อของที่ร้านเขาเป็นประจำ สังเกตเห็นแม่ค้ารายดังกล่าวไอ ดึงแมสไว้ใต้คางอ้างว่าเป็นไข้ธรรมดา สามีของแม่ค้าก็ไอเช่นกัน ตนและคนในชุมชนก็วิตกกังวัลจึงพากันไปซื้อของจากที่อื่นแทน จนมาทราบว่าครอบครัวของแม่ค้าคนนี้และญาติพี่น้องของเขาติดโควิด กลายเป็นคลัสเตอร์

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่แคมป์คนงาน ก่อสร้างลานจอดรถของกองบัญชาการศึกษา สตช. 35 จุดคลัสเตอร์ใหม่อีกแห่ง แคมป์นี้ตั้งอยู่หลังกองบัญชาการศึกษา สตช. ซอยพหลโยธิน 35 เขตจตุจักร มีคนงานทั้งชาวไทยและต่างด้าว จำนวน 121 คน ได้ตรวจเชิงรุก Swab เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 64 จำนวน 35 คน พบติดเชื้อโควิด 5 ราย ตอนนี้แยกกักตัวอยู่ในแคมป์รอส่งตัวเข้ารับการรักษา

ทั้งนี้ทางเขตฯ มีคำสั่งกักกันพื้นที่ให้ปิดแคมป์คนงานดังกล่าวเป็นเวลา 14 วัน ห้ามเคลื่อนย้ายคนเข้าออกเด็ดขาด ให้ทำความสะอาดปรับปรุงพื้นที่ โดยเริ่มปิดมาตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา และในวันที่ 7 มิ.ย. นี้ จะทำการตรวจตรวจคัดกรองให้กับแรงงานไทยกลุ่มเสี่ยงสูงที่เหลืออีก 40 กว่า คน รวมถึงแรงงานต่างด้าวที่ยังไม่ได้ตรวจเชิงรุกด้วย อย่างไรก็ตามในพื้นที่เขตจตุจักรมีแคมป์ก่อสร้าง 19 แคมป์ ทางเขตฯ ได้เข้าไปตรวจเพื่อคุมเข้มเฝ้าระวังการแพร่ระบาด

จากการลงพื้นที่พบว่าบริเวณหน้าแคมป์ฯ ไม่มีประตูหรือนำอะไรมาปิดกั้น มีการแบ่งที่พักเป็นโซน โซนที่พักกลุ่มเสี่ยงสูง 70 คน โซนที่พักกลุ่มเสี่ยงต่ำ 47 คน โดยนำผ้าใบ สแลนสีดำมาปิดกั้นบริเวณทางเข้าโซนที่พักกลุ่มเสี่ยงสูงไม่ให้เดินข้ามไปหากัน ส่วนอาคารที่พักมีหลายหลังทำเป็น 2 ชั้น มุงด้วยสังกะสี ส่วนคนงานแม้กักตัวอยู่ในแคมป์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโคววิด หลายคนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ในแคมป์ปกติ ไม่ใส่หน้ากากอนามัย พอเห็นนักข่าวจึงจะหยิบมาใส่ สอบถามแรงงานชาวไทยหญิงรายหนึ่ง บอกว่า เขากำชับให้อยู่แต่ในแคมป์ อาศัยอยู่ห้องละ 2 คน ไม่มีใครกล้าออกไปข้าง นอกเพราะกลัวมีความผิด แต่ก็พยายามป้องกันตัวเอง อาบน้ำถังใครถังมัน อาหารก็ทำกินห้องใครห้องมัน ไม่รู้ว่าเชื้อแพร่ระบาดได้อย่างไร

จากนั้นผู้สื่อข่าวลองเดินอ้อมไปดูบริเวณหลังแคมป์ มีประตูเล็ก ๆ ใช้สำหรับเข้าออกเดินไปทำงานที่ไซต์งานก่อสร้าง ในกองบัญชาการศึกษา สตช. เห็นคนงานต่างด้าวหลายคนไม่ทราบว่าไปที่ไหนมา เดินเลียบคลองน้ำเสียไปที่ประตู เรียกให้เพื่อนคนงานเปิด แล้วคนงานต่างด้าวเหล่านั้นก็เดินเข้าไปภายในแคมป์ฯ นักข่าวพยายามสอบถามว่าไปที่ไหนมา อยู่แคมป์ไหน ออกมาได้อย่างไร แต่คนงานต่างด้าวไม่ตอบรีบเดินหนี