ฝรั่งเศสเจอเคส 'เลือดออกไม่หยุด' หลังคนไข้รับวัคซีนโควิดของ 'ไฟเซอร์'

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฝรั่งเศสเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับความผิดปกติที่เกิดขึ้นน้อยมากในผู้รับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ จำนวน 3 ราย ซึ่งพบว่าวัคซีนส่งผลความสามารถในการแข็งตัวของเลือด และเวลานี้อยู่ระหว่างการสืบสวน

โดยสำนักงานความปลอดภัยยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแห่งฝรั่งเศส ระบุเคสฮีโมฟีเลีย (Hemophilia) หรือโรคเลือดออกง่ายหยุดยาก ทั้งหมดเป็นบุคคลอายุ 75 ขึ้นไป

เคสในฝรั่งเศสเหล่านี้นับเป็นเคสฮีโมฟีเลียแรก ที่มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค แต่กระนั้น ทางสำนักงานบอกว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นหาได้ยากมากๆ และคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการฉีดวัคซีนต่อไป โดยฝรั่งเศสฉีดวัคซีคต้านโควิด-19 แก่ประชาชนทั่วประเทศ ไปแล้ว 20,964,000 โดส

คนที่มีอาการฮีโมฟีเลีย จะมีโปรตีนตัวหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือดหายไปหรือมีไม่เพียงพอ เฉพาะฉะนั้นผู้ป่วยฮีโมฟีเลียจึงมีเลือดออกเป็นระยะเวลานานกว่าคนปกติ หลังจากถูกของมีคมบาดหรือมีเลือดออกภายใน การมีเลือดออกภายในมักเกิดขึ้นในข้อต่อและกล้ามเนื้อ แต่อาจเกิดขึ้นได้ที่สมองหรืออวัยวะอื่นๆ

ทั้งนี้ แม้คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาทั้งหลาย ซึ่งเป็นอนุมัติใช้วัคซีนของไฟเซอร์ ไม่ได้ระบุว่าฮีโมฟีเลียเป็นผลข้างเคียงหนึ่งของการใช้วัคซีนของไฟเซอร์ แต่ทางสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯแนะนำว่าผู้รับวัคซีนควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้าก่อนเข้ารับวัคซีนว่า มีภาวะเลือดออกผิดปกติ หรืออยู่ระหว่างใช้ยาเจือจางเลือด หรือไม่

นอกจากเคสฮีโมฟีเลียแล้ว จากการเปิดเผยขององค์การยาแห่งยุโรป ยังพบอาการแพ้ต่างๆ นานาในคนที่รับวัคซีนของไฟเซอร์ ในนั้นรวมถึงปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรงอย่างเฉียบพลัน แต่พบเคสอาการดังกล่าวเล็กน้อยมากๆ