รวบต่างด้าวหนีเข้าเมือง โกงตาชั่งขายทุเรียนคนไทย ใช้เท้าดึงสายเอ็นโกงน้ำหนัก

รวบต่างด้าวหนีเข้าเมือง เป็นเด็กเสิร์ฟสถานบันเทิงใน กทม. ร้านถูกปิดเพราะโควิด ย้ายเช่าห้องที่อยุธยาขายทุเรียนโกงตาชั่ง ใช้สายเอ็นเกี่ยวดึงกลไกเพิ่มน้ำหนัก

โลกออนไลน์แชร์คลิปเตือนภัย โกงตาชั่ง คลิปจับพ่อค้าต่างด้าวขายทุเรียนโดยใช้สายเอ็นผูกกับตาชั่งแล้วใช้นิ้วเท้าเกี่ยวดึงเพื่อเพิ่มน้ำหนัก เหตุเกิดแถวเทศบาลประตูน้ำพระอินทร์

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ตลาดประตูน้ำพระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าจุดที่พ่อค้าทุเรียนต่างด้าวโกงตาชั่งนำรถจักรยานยนต์ดัดแปลงแบบพ่วงข้างบรรทุกทุเรียนมาจอดภายในตลาดหน้าโลตัสเอ็กซ์เพรส ทราบชื่อ นายบุย ก๊กดึ๊ก อายุ 20 ปี เป็นชาวเวียดนาม

สอบถาม แม่ค้าส้มตำ บอกว่า เห็นพ่อค้าทุเรียนโกงตาชั่งมาจอดรถขายนานเกือบ 1 เดือนแล้ว ครั้งแรกไม่ทราบว่าจะโกงตาชั่งได้อุดหนุนซื้อทุเรียนเป็นประจำ เห็นว่าราคาถูกกว่าทุกร้าน กิโลละ 140-150 บาท ร้านทั่วไปจะขาย 160-180 บาท ทุเรียนเขาก็อร่อยด้วย ที่ผ่านมาซื้อมารับประทาน 3 ครั้งแล้ว คงจะถูกโกงกิโลเหมือนกันแต่ไม่ได้เอะใจ

ด้าน เจ้าของร้านโทรศัพท์มือถืออยู่ตรงข้ามกับพ่อค้าโกงตาชั่ง และ วิน จยย. เห็นเหตุการณ์มีลูกค้าที่ซื้อทุเรียนไปสงสัยจะถูกโกงตาชั่ง เกิดเอะใจทุเรียนที่ซื้อไปลูกเล็ก จึงทดสอบน้ำหนักที่บ้านพบน้ำหนักทุเรียนหายไปครึ่งกิโลกรัม มั่นใจว่าถูกโกงตาชั่งจึงหอบทุเรียนมาสอบถาม และจับได้ว่า พ่อค้าทุเรียนโกงตาชั่ง โดยเจาะสายเอ็นทะลุพื้นรถโยงเข้าไปดึงกลไกของตาชั่ง จะใช้เท้าเกี่ยวดึงสายเอ็นเพิ่มน้ำหนักทุเรียนช่วงเวลาชั่งขาย

ทันทีที่ลูกค้าคนดังกล่าวจับกลโกงตาชั่งได้ ด้วยความโมโหใช้หมวกกันน็อคเปิดฉากฟาดเข้าไปที่หัวของพ่อค้าทุเรียนด้วยความแค้นที่โกงตาชั่ง สร้างความแตกตื่นกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและผู้มาจับจ่ายสินค้า และคุมตัวแจ้งตำรวจนำไปดำเนินคดี

ตำรวจได้คุมตัวมาสอบสวนที่โรงพักพระอินทร์ราชา และยึดรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่ติดตั้งตาชั่งโกงมาเป็นหลักฐาน โดยมีกองเปลือกทุเรียนที่ขายไปแล้วกองใหญ่นำติดรถมาเป็นหลักฐานด้วย ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่า เป็นชาวเวียดนามมีพาสปอร์ต แต่จะเข้าออกประเทศไทยกับเวียดนามผ่านประเทศลาว ทางช่องทางธรรมชาติ เข้ามาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟตามสถานบันเทิงใน กทม.

ช่วงที่โควิดระบาดสถานบันเทิงถูกปิด จึงได้พาพวกมาเช่าหอพักในท้องที่ย่านตลาดประตูน้ำพระอินทร์ราชา มีนายทุนหารถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างมาให้ และสอนวิธีโกงตาชั่ง แล้วจะไปหาซื้อทุเรียนจากตลาดไท มาขายที่ตลาดประตูน้ำพระอินทร์ราชา โดยจะตั้งราคาขายถูกกว่าร้านทั่วไปกิโลกรัมละ 10-20 บาท ทำให้ขายดี แต่จะใช้วิธีโกงตาชั่งแทน

ชั่งครั้งละ 1 ลูก ก็จะโกงน้ำหนักครึ่งกิโลกรัม ก็จะได้กำไรเป็นเงินโกงลูกละประมาณ 70 บาท เป็นอย่างต่ำ ตำรวจได้สอบสวนขยายผลต่อทราบว่าให้กลุ่มแก๊งเดียวกันก็มีพฤติกรรมแบบเดียวกัน ขณะนี้ให้ชุดสืบสวนออกติดตามมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด

การคุมตัวดำเนินคดีก็เป็นไปอย่างหวาดระแวง ว่าผู้ต้องหาโกงตาชั่ง จะติดเชื้อโควิด เนื่องจากเป็นผู้เสี่ยงสูงมาจากสถานบันเทิง ใน กทม. และยังเป็นต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองด้วย ต้องให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครใส่ชุด PPE เข้ามาพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณพื้นที่ควบคุม และนำตัวไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลบางปะอิน

เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาหนักฐานความผิดตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด, หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย