ศาลอยุธยาสั่งปรับ 2 ลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ไม่ใส่แมสก์คนละ 2 พันบาท

อยุธยา-จากกรณี นางสาววลีรัตน์ ประสงค์เงิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลบางนางร้า อำเภอบางปะหัน ได้จับลูกชายของตัวเองรวม 2 คน ที่ขายกะทิสดในตลาดบางปะหัน ไม่สวมใส่แมสก์หรือหน้ากาอนามัย ถูกคุมตัวส่งตำรวจโรงพักบางปะหันดำเนินคดี ตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับปรับ คนละ 500 บาท แต่ก็ต้องคืนเงินค่าปรับ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจในการปรับ

พนักงานสอบสวนจึงได้สรุปสำนวนสอบสวนส่งอัยการสั่งฟ้องและนำตัวส่งศาลแขวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิจรณาโทษในข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ประกอบมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 สั่งให้ประชาชนทุกคนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถาน หรือขณะอยู่นอกเคหะสถาน หรือต้องติดต่อกับบุคคลอื่นหรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะหรือสถานที่ใดๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่นต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าด้วยทุกครั้ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

นางวลีรัตน์ เผยว่า ศาลได้อ่านคำพิพากษาพิจารณาโทษลูกชายในความผิดดังกล่าว ซึ่่งการพิจารณาโทษศาลได้วิเคราะห์เห็นว่าลูกชายเป็นบุคคลทำมาหากินประกอบอาชีพสุจริต อีกทั้ง ทั้งคู่สวมใส่แมสก์แต่ได้ถอดช่วงเวลารับประทานอาหาร และช่วงเวลาที่ไม่มีลูกค้าเข้ามาซื้อขาย

ศาลเมตตาให้ปรับลูกชายคนละ 2,000 บาท รวมสองคนเป็นเงินค่าปรับ 4,000 บาท นางวลีรัตน์จึงขอฝากเตือนทุกคนออกจากบ้านต้องใส่แมสก์ทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะถูกจับดำเนินคดีเหมือนลูกชายของตน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/2Tqrs6zNjV0