กทม.บังคับสวมแมสก์ในที่สาธารณะ อยู่ในรถตั้งแต่ 2 คนก็ต้องใส่ - ผญบ.สุดเข้ม เจอลูกชายฝ่าฝืนแจ้งจับทันที

วันนี้ประกาศ กทม. เรื่องให้สวมหน้ากากอนามัยมีผลบังคับใช้ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 2 หมื่นบาท

ประกาศ กทม. ระบุว่าหากออกจากเคหะสถานต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย หากฝ่าฝืนจะถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 มีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท

นอกจากการออกนอกเคหะสถานแล้วยังมีรายละเอียดอื่นๆที่ต้องระมัดระวังด้วย เช่นการนั่งรถ กทม. ชี้แจงว่า ถ้านั่งคนเดียวไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากาก แต่ถ้าบนรถมีมากกว่าหนึ่งคนก็ต้องสวม ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเดียวกันหรือไม่ก็ตาม

ยังรวมถึงการอยู่ในที่สาธารณะรวมกับบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นในอาคารหรือไม่ก็ต้องสวมหน้ากาก เช่นการวิ่งในพื้นที่สวนสาธารณะของหมู่บ้าน การออกกำลังกายในส่วนกลางของคอนโดมิเนียม

ส่วนการใช้พื้นที่ส่วนกลางหรือพื้นที่สาธารณะก็ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาแม้จะอยู่คนเดียว โดยให้เหตุผลว่าอาจจะมีคนอื่นมาใช้บริการต่อได้ รวมไปถึงผู้ประกาศข่าวหรือการจัดรายการในสตูดิโอก็เช่นกัน ที่ต้องสวมหน้ากากระหว่างปฏฺบัติหน้าที่ ส่วนผู้ที่มีอำนาจในการจับปรับคือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ก่อนจะนำไปเปรียบเทียบปรับที่สถานีตำรวจ

ส่วนกรณีการจับปรับผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยที่อำเภอบางปะหัน พลตำรวจโท อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยอมรับว่าตำรวจไม่มีอำนาจสั่งปรับ พร้อมสั่งเพิกถอนค่าปรับ 500 บาท เนื่องจากต้องปรับอัตราขั้นต่ำเป็นเงิน 6,000 บาท เพราะตามกฎหมายควบคุมโรคติดต่อและตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด อัตราโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท ดังนั้นในกรณีนี้ ผู้ถูกกล่าวหาขอให้พนักงานสอบสวนทำสำนวนส่งฟ้องศาลแขวง เพื่อให้ศาลฯใช้ดุลยพินิจในการสั่งปรับแทน

ขณะที่พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งตั้งทีมกฎหมายให้ความรู้ แนะนำเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติและพนักงานสอบสวนให้ดูเจตนาด้วย อาจจะใช้วิธีตักเตือนก่อน และห้ามเรียกรับผู้ประโยชน์เด็ดขาด

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/y7ehS5MxWG0