เร่งหาต้นตอ #คลัสเตอร์ทองหล่อ ลือ 6 ไฮโซ ข้ามไปบ่อนกัมพูชาก่อนนำเชื้อกลับมาแพร่ในไทย

ต้นตอการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ระลอก3 ครั้งนี้ เป็นที่จับตามองของสาธารณะชนเป็นอย่างมาก ว่ามาจากแหล่งใด เพราะผู้ทำให้กิดการระบาดของเชื้อโรคจะต้องถูกดำเนินคดีข้อหา ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พรบ.ควบคุมโรค ขณะที่มี การรายงานข่าวว่ากลุ่มพนักงานร้านคริสตัลคลับ และเอมเมอรัลด์คลับ ได้ให้ข้อมูลว่าจุดเริ่มต้นตามไทม์ไลน์ที่กรมควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขได้ทำการตรวจสอบร่วมกับทางสำนักงานเขตวัฒนา และสำนักอนามัย กทม. พบว่า มีกลุ่มลูกค้าวีไอพี จำนวน 5-6 คน รวมเพื่อนอีก 3-4 คน มาใช้บริการโดยมีพนักงานพีอาร์ที่มาดูแลประมาณ 17 คน แล้วติดโควิด 10 คน เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564

ทีมข่าวได้สอบถามไปยัง ผอ.เขตวัฒนา ระบุว่า ทางสำนักงานเขตไม่มีข้อมูล โดยทางเขตไม่ได้มีการสอบสวนโรค เช่นเดียวกับทางสำนักอนามัย กรุงเทพฯ ก็ระบุว่าไม่มีข้อมูลนี้เช่นกัน โดยในช่วงแรกของการระบาดของเชื้อโรค มีการปกปิดข้อมูลบ้าง แต่ตอนหลังก็ได้รับความร่วมมือ และสามารถสอบสวนโรคได้ ส่วนที่มีข่าวว่ามีกลุ่มไฮโซข้ามไปฝั่งกัมพูชาและลักลอบข้ามมายังฝั่งไทย และนำเชื้อมาระบาด ยังไม่ได้รับข้อมูลนี้

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ตอบสั้นๆ ว่ารับทราบข้อมูล ถึงกรณีมีรายงานข่าวกลุ่มไฮโซ 6 คน ข้ามไปยังบ่อนฝั่งกัมพูชาแล้วข้ามกลับมา นำเชื้อโควิด -19 สายพันธุ์อังกฤษ มาแพร่ระบาดในคลัสเตอร์ทองหล่อ และจะสั่งให้ดำเนินการตรวจสอบ

ขณะที่ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า การสอบสวนมีความคืบหน้าไปตามลำดับ โดยการเอาผิดกับผู้ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค จะต้องมีเจ้าพนักงานควบคุมโรคมาแจ้งความร้องทุกข์ ส่วนการรวบรวมพยานวัตถุและพยานเอกสารจากสถานที่เกิดเหตุ จากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้ตรวจยึดเซฟเวอร์เพื่อส่งตรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลาง หลังจากทางร้านระบุกล้องวงจรปิดสามารถเก็บภาพได้วันเดียว สำหรับพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างการคัดกรอง กำหนดวันที่เหมาะสม ปลอดภัย เนื่องจากขณะนี้มีอุปสรรค จากพยานหลายคนติดเชื้อโควิด เช่นเดียวกับ ตำรวจ ที่อยู่ในสถานบริการ ก็ติดเชื้อโควิด เช่นเดียวกัน

โดยในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ พนักงานสอบสวน ได้ออกหมายเรียกนายเกียรติพงษ์ คำต่าย หรืออ๊อด และนายเดชา พิลาลี ในฐานะกรรมการผู้จัดการนิติบุคคล ของร้านคริสตัลคลับ และเอมเมอรัล คลับ ให้มาพบพนักงานสอบสวน หลังจากสอบปากคำ เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย กทม. พบวาตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืนข้อกำหนด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน