รวบหนุ่มกระบะคลั่ง ชกไม่ยั้ง-ปืนจ่อหัว จยย.อ้างฉุนถูกปาดหน้า พบเพิ่งเสพกัญชา-ทะเลาะเมีย ลั่นถ้ามีกระสุนคงยิงไปแล้ว

โลกออนไลน์แชร์คลิปเหตุการณ์ คนขับรถกระบะ เข้าทำร้ายร่างกายคนขี่รถจักรยานยนต์ที่ขับตามหลังมา และอีกคนที่เข้ามาห้าม ก็ถูกอาวุธปืนจ่อหัวด้วย

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นบนสะพานปิ่นเกล้า ชายผมยาว สวมเสื้อสีขาว ขับรถกระบะ ลงจากรถมาทำร้ายร่างกายคนขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดข้างหลัง ในภาพจะเห็น สาวหมัดรัวๆใส่ชายเสื้อส้ม ที่คาดว่าเป็นพนักงานส่งของอย่างไม่ยั้ง ซึ่งคนขี่รถจักรยานยนต์ก็ไม่ได้โต้ตอบ

จากนั้นก็มีรถจักรยานยนต์อีกคัน ขี่เข้ามาจอด คล้ายเข้ามาห้ามปราม แต่ชายที่ขับรถกระบะ กลับหัวร้อนมากขึ้น ปีนขึ้นไปอยู่บนท้ายกระบะพร้อมกับกระโดดถีบไปที่รถจักรยานยนต์ ทั้ง 2 คัน ก่อนที่จะตรงเข้าหารถจักรยานยนต์คันที่เข้ามาห้าม พร้อมชักปืนขึ้นมาจ่อหัว

ซึ่งผู้โพสต์ เล่าว่า ได้ยินเสียงเบรกรถดังมากและเห็นการทำร้ายร่างกาย จึงอัดคลิปไว้ สุดท้ายคนขับกระบะก็ขับหลบหนีไปด้วยความเร็ว เกิดเหตุที่สะพานปิ่นเกล้า ขาเข้าถนนประชาธิปไตย

ต่อมา ตำรวจ สน.พระราชวัง เข้าสกัดจับได้บริเวณแยกสามยอด แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. พบคนขับรถดังกล่าว คือ นายวศิน อาจคงหาญ อายุ 27 ปี ขับรถกระบะสีขาว ตรวจค้นในรถพบอาวุธปืนยี่ห้อ LLAMA สีดำ ขนาด .380 ซองพกหนังสีดำ ซองกระสุน มีดยาวประมาณ 7 นิ้ว เหน็บพกอยู่บริเวณเอวด้านหน้าข้างขวา ก่อนคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.พระราชวัง

ทั้งนี้พบว่า ก่อนมาก่อเหตุที่กลางสะพานปิ่นเกล้า ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับแท็กซี่ ในพื้นที่สน.คู่ขนานลอยฟ้า และเฉี่ยวชนกับรถเก๋งที่สน.ตลิ่งชัน รวมก่อเหตุเป็น 3 กรณี ขณะที่อาวุธปืนที่ก่อเหตุ ก็พบว่าเป็นปืนจริง แต่ไม่มีกระสุน เบื้องต้นให้การว่าทะเลาะกับแฟน จึงหัวร้อนก่อเหตุไปทั่ว ตรวจไม่พบแอลกอฮอล์ ต้องรอผลตรวจปัสสาวะเพื่อดูว่าเสพยาเสพติดหรือไม่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง พกพาอาวุธปืน อาวุธมีดในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายวศิน ซึ่งอาการเริ่มสงบลงแล้ว อ้างว่า ทะเลาะกับภรรยามาจึงทำให้มีอารมณ์ฉุนเฉียวประกอบกับเสพกัญชามา เมื่อมาถูกรถจักรยานยนต์คู่กรณีปาดหน้า จึงเกิดความโมโห จึงลงไปต่อย ส่วนปืนยอมรับว่าเป็นของตนเอง เพิ่งซื้อมาได้ 2 เดือน แต่ไม่มีกระสุน พร้อมกล่าวว่า หากมีกระสุนขณะนั้นคงยิงไปแล้ว

ส่วนพี่สาวของนายวศิน ระบุว่า ปกติแยกกันอยู่กับน้องชาย ไม่ทราบว่าเขามีปัญหาอะไร แต่เป็นครั้งแรกที่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ จากการพูดคุยกับน้องชายยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง เพราะน้องชายยังพูดจาวกวน ฟังไม่รู้เรื่อง

ด้านคนขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 ราย ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ชนะสงคราม โดยนายธนวรรธณ์ อัครกิจวรสกุล อายุ 33 ปีสวมเสื้อสีส้มในคลิป เล่าว่า ตนขี่รถมาตามปกติ ระหว่างทางถูกนายวศินขับรถปาดหน้า ตนจึงบีบแตรเตือน อาจทำให้เขาไม่พอใจ จึงเบรกรถกระทันหันจนตนเบรกไม่ทันชนท้ายเข้าอย่างจัง

จากนั้นเขาได้ลงจากรถมาตะโกนด่าทอตน และชกเข้าที่ใบหน้า และท้ายทอยหลายครั้ง พร้อมกับเอาปืนออกมาขู่ ด้วยความกลัวที่เขามีอาวุธตนจึงไม่ได้ตอบโต้อะไร หลังจากนั้นมีพลเมืองดีเข้ามาห้าม เขาก็หันไปทำร้ายคนดังกล่าวยอมรับว่าตกใจมาก ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ในชีวิต ตนก็รักชีวิตตัวเอง จึงปล่อยให้เขาทำร้าย กลัวว่าสู้กลับอาจจะถูกยิง ซึ่งตนได้บาดเจ็บที่ใบหน้า มือ และหัวเข่า ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะที่นายสถาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ผู้ที่เข้าห้ามปราม เล่าว่า ก่อนหน้านั้น ตนถูกนายวศินขับรถปาดหน้ามาแล้วเช่นกัน พอมาถึงจุดเกิดเหตุในคลิป เห็นนายวศินกำลังทำร้ายนายธนวรรธณ์อยู่ ตนจึงเข้าไกล่เกลี่ย ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย แต่นายวศินกลับหันมาทำร้ายตนแทน พร้อมกับยกปืนขึ้นมาจ่อ จังหวะนั้นไม่รู้จะทำอย่างไร จึงยื้อยุดแย่งปืนจากเขาแต่ไม่สำเร็จ จากนั้นเขาก็หันไปทำร้ายนายธนวรรธณ์อีก ก่อนขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป ซึ่งหลังจากนายวศินถูกสกัดจับได้นั้น ก็ได้พูดจาข่มขู่ตนอีกว่าจะทำร้าย ทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัวเพราะต้องใช้ชีวิตทำมาหากินต่อไป

เบื้องต้น ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ให้ผู้เสียหายเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ก่อนแจ้งข้อกับผู้ต้องหาฐานขับรถประมาทเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นต่อไป

 รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/1MnFoBWaxHE