ประเด็นข่าวรอบวัน ข่าว 3 มิติ ก.พาณิชย์ระงับ 45 ร้านธงฟ้า โกงโครงการเยียวยาภาครัฐ - ญาติร้อง พริตตี้ตายปริศนาคล้ายคดีลัลลาเบล

ช่วยเหลือแมวถูกทิ้งกว่า 200 ตัว

สภาพของแมวที่อาศัยอยู่ภายในอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ที่ตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ทุกกรงและรอบพื้นที่บ้านเต็มไปด้วยมูลของแมวกองสูง ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ หลังเจ้าของไม่ได้เข้ามาดูแลนานกว่า 7 เดือน กลุ่มคนรักสัตว์ร่วมกับองค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม เข้ามาตรวจสอบภายในอาคารพาณิชย์ พบว่าทุกห้องของทั้ง 4 ชั้น เต็มไปด้วยแมวมากถึง 224 ตัว มีทั้งที่ป่วยและสุขภาพแข็งแรง แมวที่ป่วยราว 50 ตัว จะแยกไปรักษาที่คลินิค ส่วนตัวที่แข็งแรงจะส่งไป แคท คิงส์ดอม มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นางสาว มยุรี เอี่ยมสกุลพัฒน์ อาสาสมัคร เผยว่า เจ้าของแมวเป็นคนมีฐานะและรักสัตว์ จึงรับแมวจรจัดหรือแมวที่บาดเจ็บมาเลี้ยงที่อาคารพาณิชย์แห่งนี้ แต่ 1 ปีก่อน มีปัญหาทางการเงิน ดูแลแมวไม่ไหว มีเพียงอาสาสมัครเข้ามาให้อาหารแมว 4-5 วันต่อครั้งเท่านั้น จึงต้องประสานมูลนิธิเข้ามาช่วย นอกจากนี้ยังมีแมวอีก 180 ตัว ที่อยู่กับเจ้าของที่บ้านอีกหลัง ซึ่งมูลนิธิจะประสานกับเจ้าของเพื่อเคลื่อนย้ายไปดูแลเช่นกัน

ก.พาณิชย์ระงับ 45 ร้านธงฟ้า โกงโครงการเยียวยาภาครัฐ

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัด ย่านบางกอกน้อย โดยย้ำเตือนให้ร้านค้าปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสในการขึ้นราคาสินค้าโดยเด็ดขาด ขณะที่การลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าธงฟ้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง และเราชนะ ทั่วประเทศ พบร้านธงฟ้าทำผิดเงื่อนไขโครงการ และได้สั่งระงับสิทธิ์แล้ว 45 ราย แบ่งเป็น รับแลกเงินสด 35 ราย ไม่ปิดป้ายราคา 2 ราย ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า 3 ราย ยึดบัตรลูกค้า 4 ราย และขายเหล้าบุหรี่ 1 ราย ทำให้ร้านค้าเหล่านี้ ไม่สามารถรับชำระเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ รับชำระเงินจากแอปพลิเคชัน “เราชนะ” ได้อีกต่อไป ทั้งนี้ได้กำชับให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบร้านค้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนประชาชนหากพบเห็นร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการของรัฐบาลทำผิด ขอให้แจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือ ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และหากตรวจสอบพบกระทำความผิดจริง กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับ 10,000 บาท ส่วนกรณีขายแพงเกินจริง มีโทษปรับ 140,000 บาท จำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

จับหลอกคนต่างด้าวทำวีซ่า

กก.สส.บก.ตม.3 ตรวจพบว่ามีผู้เสียหายได้โพสต์ข้อความลงใน SOCIAL MEDIA ว่ามีผู้ประกอบการและแรงงานคนต่างด้าวได้ถูกนายหน้ารับจ้างทำเอกสารคนต่างด้าวมีพฤติกรรมหลอกให้ผู้ประกอบการหรือแรงงานต่างด้าวหลงเชื่อว่าว่าสามารถดำเนินการเรื่องเอกสารคนต่างด้าวได้ จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินค่าดำเนินการให้เพื่อไปดำเนินการเอกสารคนต่างด้าวจำนวน 20 คนรวมค่าใช้จ่ายที่โอนให้ 120,000 บาท ต่อมานายหน้าดังกล่าวได้นำเอกสารคนต่างด้าวมาคืนให้พร้อมแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ไม่ยอมคืนเงินค่าใช้จ่ายที่ผู้เสียหายโอนให้ไป ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรีให้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา ข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ และศาลแขวงนครปฐม ได้อนุมัติหมายจับที่ 120/2563 ให้จับกุมผู้ต้องหา ซึ่งกระทำผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์ ซึ่ง กก.สส.บก.ตม.3 ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวแต่ผู้ต้องหาเปลี่ยนแปลงสถานที่พักอาศัยตลอด ต่อมา ชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้เดินทางมาในพื้นที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จึงได้เฝ้าติดตามและจับกุมตัวตามหมายจับได้ จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปส่วนความเสียหายของรายอื่นๆกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการขยายผลติดตามผู้เสียหายและสืบสวนหาผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวต่อไป

ญาติร้อง พริตตี้ตายปริศนาคล้ายคดีลัลลาเบล

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยครอบครัวของ น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือวา พีอาร์สาว เข้าพบ พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. หลังครอบคัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ภายหลังน.ส.วิชญาพรรับงานดื่มกินกับชายคนหนึ่ง ก่อนเสียชีวิตปริศนา โดยหลังการประชุม พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวว่า จากผลตรวจการตายเบื้องต้นจากแพทย์ เกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งจะต้องส่งศพให้สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้งว่ามีสารเสพติด หรือแอลกอฮอล์หรือไม่ เพราะจากการสอบถามครอบครัวของผู้ตายทราบว่า ไม่มีประวัติการเสพยาเสพติด และไม่มีโรคประจำตัว ที้งนี้ผู้ตายได้ได้ตกลงรับงานจาก น.ส.สุ ให้ไปกินข้าวกับนายเก่งที่บ้าน พร้อมกับเพื่อนอีก 4 คน ในราคา 7,500 บาท รวมเป็นเงิน 30,000 บาท ในคืนวันที่ 23 ก.พ. กระทั้งช่วงเช้าของวันที่ 24 ก.พ. มาชาย 2 คนขับรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ท สีเทา มาส่งผู้ตายที่ รพ.เปาโลเกษตร กระทั่งเวลา 07.00 น.นายเก่ง มาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ผู้ตาย โดยอ้างว่าผู้ตายเสพยาอีมาก่อน กระทั้งที่สุดน.ส.วิชญาพรได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้เนื้องจากเป็นลักษณะคล้ายคลึงกับคดีของพริตตี้สาวลาลาเบล จึงใช้โมเดลในการสืบสวนในทิศทางเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ได้เรียกน.ส.สุ และเพื่อนร่วมงานมาสอบปากคำแล้ว และเตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่มีการแจ่งข้อหากับใคร เพราะต้องรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า น้องสาวผู้ตายระบุว่าผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และรับงานเป็นพริตตี้ไม่ค้าประเวณีมาตลอดซึ่งทางครอบครัวของผู้ตายคาดว่าผู้ตายอาจจะถูกวางยาจนเชียชีวิต จึงอยากให้ตำรวจเร่งหาสาเหตุการตายของน.ส.วิชญาพร โดยล่าสุดรองผบช.น. ได้สอบปากคำ น.ส.สุ คนส่งงานให้กับผู้ตาย ด้วยตนเอง ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.สุอ้างว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่ผู้ตายรับงาน เนื่องจากไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติน อยู่ระหว่างประสานกับเพื่อนร่วมงานในวันก่อเหตุของผู้ตายเข้าสอบปากคำ ซึ่งจะเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในวันนี้ 1 คน ส่วนอีก 2 อยู่ระหว่างติดต่อให้ ล่าสุดพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างขอหมายค้นจากศาลเพื่อเข้าตรวจสอบ เก็บหลักฐานที่บ้านเกิดเหตุ หากศาลอนุมัติก็จะเข้าตรวจสอบ

ผู้ชุมนุมเมียนมาสองฝ่ายปะทะกันในย่างกุ้ง

ผู้ชุมนุมที่สนับสนุนกองทัพประมาณ 1000 คน นัดรวมตัวกันในที่นครย่างกุ้ง พร้อมกับเดินขบวนไปตามท้องถนนโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดแนวกั้นให้ ซึ่งขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนเคลื่อนขบวนผ่าน กลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นฝ่ายต่อต้าน พากันเคาะหม้อและกะทะ รวมถึงนำแขนทั้งสองข้างไขว้กันเป็นกากบาท เพื่อแสดงออกว่าไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ยังเกิดการเผชิญหน้าและปะทะกันอย่างดุเดือด โดยผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายขว้างปาก้อนหินและยิงหนังสติ๊กใส่กัน และมีผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุน ใช้มีดไล่แทงผู้ชุมนุมอีกฝ่าย ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย  ขณะที่เฟซบุ๊ก เครือข่ายสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ประกาศแบนบัญชีผู้ใช้งานที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเมียนมา รวมไปถึงโฆษณาต่างๆที่บริษัทที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเมียนมาทั้งหมด อันเป็นผลมาจากการยึดอำนาจ รัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา