ดุเดือดต่อเนื่อง! รัสเซีย ถล่มโรงงานผลิตระบบป้องกันทางอากาศ และต่อต้านเรือรบ นอกกรุงเคียฟ

กองกำลังรัสเซีย ระดมโจมตีทางอากาศ ในเมืองคาร์คีฟ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของยูเครนอย่างต่อเนื่อง โดยได้ทิ้งระเบิดโจมตีพื้นที่พักอาศัยของประชาชน มีรายงานผู้เสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บอีก 34 คน เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.)



นอกจากนี้ กองทัพรัสเซีย ยังได้โจมตีโรงงานที่ผลิตระบบป้องกันทางอากาศ และ ต่อต้านขีปนาวุธจากเรือรบ นอกกรุงเคียฟอีกด้วย ซึ่งมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่ รัสเซีย ออกมายอมรับว่า เรือรบลาดตระเวนที่ติดตั้งระบบขีปนาวุธ “มอสควา” (Moskva) ของกองทัพรัสเซีย ที่ประจำการอยู่ในทะเลดำ อำปางจมสู่ทะเล โดยระบุว่า เกิดขึ้นในระหว่างลากจูงพื่อนำกลับไปยังท่าเรือ เพื่อซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากเหตุไฟไหม้ แล้วเจอกับสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้เรือเสียการทรงตัว และจมลงในทะเล



อย่างไรก็ตามก็มีรายงานที่ขัดแย้งกัน เพราะ ทางการยูเครน ออกมาอ้างว่า เรือรบ มอสควา ที่แล่นอยู่ในทะเลดำ ถูกขีปนาวุธ เนปจูน 2 ลูกของยูเครนยิงโจมตี ทำให้เกิดไฟไหม้ บนเรือ ทำให้เรือจมลงในทะเล



หลังเหตุการณ์จมเรือรบรัสเซีย ยิ่งทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย และยูเครน เริ่มตึงเครียดมากขึ้น เมื่อ กองทัพรัสเซีย ออกโรงเตือนยูเครน ว่าจะโจมตีกรุงเคียฟ อย่างเข้มข้น หากกองทัพยูเครน มุ่งเป้าโจมตีดินแดนของรัสเซีย รวมทั้ง โดยส่งบันทึกทางการทูตอย่างเป็นทางการ เตือน สหรัฐฯ และ ชาติพันธมิตร กรณีที่ส่งอาวุธให้กับยูเครน โดยระบุว่า จะยิ่งเติมเชื้อเพลิง ให้วิกฤติยูเครน ยิ่งรุนแรงขึ้น และอาจต้องเผชิญกับผลที่ไม่คาดคิดตามมา



ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ส่งความช่วยเหลือด้านการทหาร แก่ยูเครน 800 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอาวุธล็อตแรก จะถึงยูเครนในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ และจนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยเหลือด้านการทหารกับยูเครนไปแล้วกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ



ด้านประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ซีเอ็นเอ็น เมื่อวานนี้ว่า โลก ควรเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ ที่รัสเซียจะมุ่งเป้าโจมตียูเครนด้วยอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ระบุว่า มีความเป็นไปได้ ที่รัสเซีย จะใช้ นิวเคลียร์ รุกรานยูเครน



ก่อนหน้านี้ เซเลนสกี ได้ออกแถลงการณ์เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบ 50 วัน ที่รัสเซีย รุกรานยูเครน โดยระบุว่า การที่ ชาวยูเครนทุกคนที่สามารถยืนหยัดต้านทานการรุกรานของรัสเซียเอาไว้ได้ถึง 50 วัน นับเป็นความสำเร็จของชาวยูเครนหลายล้านคนที่ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตที่จะสู้นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังกล่าวยกย่องชาวยูเครนที่ช่วย สู้รบกับรัสเซียอย่างกล้าหาญ



พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และหลายชาติในยุโรปส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับยูเครนให้มากขึ้นและเร็วขึ้น และ เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย เพื่อยุติวิกฤตที่เกิดขึ้นในยูเครน