สื่อกัมพูชาโจมตี พิธีเปิดซีเกมส์ไทย ผิดพลาดหลายครั้ง สร้างความอับอายให้กับหลายประเทศ

สื่อกัมพูชาโจมตี พิธีเปิดซีเกมส์ไทย เกิดความผิดพลาดหลายครั้ง สร้างความอับอายให้กับหลายประเทศ ชี้กระถางคบเพลิงซีเกมส์มีแต่ควัน ไม่มีเปลวไฟ

เว็บไซต์ข่าวพนมเปญ โพสต์ (Phnom Penh Post) ของกัมพูชารายงานข่าว ไทยต้องเจอกับความอับอายครั้งใหญ่ หลังพิธีเปิดมหกรรมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (9 ธ.ค. 2568) เกิดความผิดพลาดหลายครั้ง สร้างความอับอายเป็นอย่างมากให้กับหลายประเทศ

ในรายงานระบุว่า แม้ว่าประเทศไทยจะเคยเป็นเจ้าภาพซีเกมส์มาถึง 6 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2502 แต่พิธีเปิดซีเกมส์ครั้งที่ 33 เมื่อคืนที่ผ่านมา กลับย่ำแย่เป็นอย่างมาก เนื่องจากเกิดการผิดพลาดครั้งใหญ่หลายครั้ง

สื่อกัมพูชาบอกว่าพิธีเปิดถูกเลื่อนเวลาอย่างกะทันหัน ทำให้ผู้เข้าร่วมงานต้องรอประมาณ 30 นาที และในช่วงพาเหรดนักกีฬา ความผิดพลาดต่างๆ ได้ปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมีอย่างน้อย 2 ครั้งที่ดูเหมือนจะจงใจดูหมิ่นกัมพูชา

ครั้งแรก พนมเปญโพสต์บอกว่า คำทักทายภาษาเขมรที่แสดงบนหน้าจอขนาดใหญ่ สะกดผิด ครั้งที่สอง ในบรรดากล่องไฟ LED จำนวน 11 กล่องที่เป็นตัวแทนของ 11 ชาติอาเซียน มีเพียงกล่องของกัมพูชาเท่านั้นที่ไม่สว่าง สิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นการจงใจมากกว่าอุบัติเหตุ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติเชิงลบซ้ำซากจากเจ้าภาพไทยที่มีต่อกัมพูชา

นอกจากนี้ ขณะที่ทัพนักกีฬาอินโดนีเซียเดินเข้าสู่สนาม พิธีกรได้ประกาศปีที่อินโดนีเซียเคยเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ (2522, 2530, 2540 และ 2554) แต่ภาพธงชาติที่แสดงบนจอกลับเป็นธงชาติสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นการไม่ให้เกียรติอัตลักษณ์ของชาติทั้งอินโดนีเซียและสิงคโปร์

ทั้งนี้ ข้อผิดพลาดในลักษณะเดียวกันเกี่ยวกับชื่อประเทศและธงชาติเคยเกิดขึ้นมาแล้วในพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม

ขณะที่เวียดนาม ก็ได้รับผลกระทบจากการจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพของไทยเช่นกัน แผนที่ประเทศเวียดนามถูกฉายบนพื้นสนาม ขาดเกาะสำคัญไป 2 แห่ง (หมู่เกาะพาราเซลและสแปรตลี) ทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ทางการทูตอย่างรุนแรงจากเวียดนาม เนื่องจากความผิดพลาดนี้กระทบต่อประเด็นอธิปไตยของชาติโดยตรง

สื่อกัมพูชายังบอกอีกว่า ไทยยังสร้างความอับอายให้แก่ตนเองในช่วงเวลาสำคัญของพิธีการ เมื่อเพลงประจำการแข่งขันซีเกมส์ถูกบรรเลงขึ้น ธงซีเกมส์ได้ร่วงหล่นลงมา เนื่องจากการผูกที่ไม่แน่นหนา แต่สิ่งที่น่าอับอายที่สุดสำหรับเจ้าภาพไทยคือพิธีจุดคบเพลิงที่เกิดความขัดข้อง

การจุดคบเพลิงมีเพียงกลุ่มควันเท่าทัน ไม่มีเปลวไฟปรากฏให้เห็น ทำให้พิธีกรต้องพยายามพูดบรรยายเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ชมในสนามและผู้ชมทางบ้าน ขณะที่ตากล้องก็พยายามหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพระยะใกล้ที่กระถางคบเพลิง อย่างไรก็ตาม ความล้มเหลวดังกล่าวไม่สามารถปิดบังได้

อีกปัญหาหนึ่งคือการไม่มีการจุดพลุเฉลิมฉลองระหว่างพิธี ซึ่งสื่อกัมพูชาบอกว่า อาจเป็นผลมาจากความขัดข้องของคบเพลิงที่มีเพียงควัน หรือเป็นไปได้ว่าไทยอ้างเหตุผลเรื่องสถานการณ์สงครามที่ดำเนินอยู่เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงระเบิดดัง อีกความเป็นไปได้หนึ่งคือการลดค่าใช้จ่าย เนื่องจากซีเกมส์ครั้งนี้กำลังเผชิญกับข้อครหาหลายประการเกี่ยวกับงบประมาณที่ไม่เพียงพอ

พนมเปญโพสต์อ้างแหล่งข่าวที่เข้าร่วมพิธีเปิดว่า กระถางคบเพลิงซีเกมส์มีแต่ควัน ไม่มีเปลวไฟ ทุกคนต่างเฝ้ามองดูว่าเมื่อไหร่ไฟจะติด แต่สุดท้ายก็ไม่ติด เนื่องจากมีเพียงควันและไม่มีเปลวไฟ เจ้าภาพไทยจึงไม่สามารถจุดพลุเฉลิมฉลองได้ ทุกอย่างจบลงอย่างเงียบเชียบ และผู้ชมต่างก็รู้สึกงุนงงอย่างเห็นได้ชัด