“ธรรมนัส” โว พิธีเปิดซีเกมส์เราไม่น้อยหน้าใคร แม้งบน้อย-เวลาจำกัด

“ธรรมนัส” โว พิธีเปิดมหกรรมซีเกมส์เราไม่น้อยหน้าใคร แม้งบน้อย-เวลาจำกัด เชื่อภาพในสนามราชมังฯ คือพลังความสามัคคีของคนไทยท่ามกลางสถานการณ์ชายแดน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวบางช่วงบางตอนถึงความสำเร็จของการจัดมหากรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 โดยกล่าวในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า เมื่อวานก็ตั้งใจที่จะทำให้การเปิดมหกรรมกีฬาของพวกเรา 11 ประเทศให้มันยิ่งใหญ่ ด้วยเวลาที่มันมีขีดจำกัด และงบประมาณน้อยนิด มหกรรมซีเกมส์ได้เปิดเมื่อวาน ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินี ทรงเสด็จไปร่วมงาน ตนเองน้ำตาแทบไหล ที่เห็นพระองค์ท่านกล่าวเปิดงาน เพื่อให้แขกบ้านแขกเมืองเรา 11 ประเทศ รวมประเทศไทย ได้จัดมหกรรมที่ก่อให้เกิดความสามัคคี

“เมื่อวานนี้การจัดงานการแข่งขันมหกรรมกีฬาของประเทศสมาชิกรวมไทยด้วย 11 ประเทศ เราไม่น้อยหน้าใคร” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ก่อนกล่าวบางช่วงกับคนในงานว่า ตนเองมาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยได้รับตำแหน่งเพราะเป็นรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 และรัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้บรรจุงบประมาณในการจัดงานซีเกมส์ที่ใช้งบประมาณปี 68 ต้องมาใช้งบประมาณปี 69 ถึงใช้ได้วันที่ 1 ตุลาคม 2568

ตนเองมีเวลาเตรียมการแค่ 2 เดือนด้วยงบประมาณที่น้อยนิด ที่เปรียบเทียบกับการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่แล้ว ที่ประเทศกัมพูชา โดยมีประเทศมหาอำนาจอย่างจีน สนับสนุนพิธีเปิดปิด 500 ล้านบาทแต่เราใช้แค่เงิน 100 ล้านบาทนิดๆ ที่เห็นเมื่อวาน

แต่ก็ไม่พ้นที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ จับจุดเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งจริงๆแล้วคนไทยต้องชื่นชม ที่พระเจ้าอยู่หัวของเรา เสด็จเป็นองค์ประธานเปิด และคนในสนามส่งเสียงด้วยความสุข ขณะที่ชายแดนกำลังรบกันปังๆๆๆๆ เสียงกระหึ่มในสนามราชมังคลากีฬาสถาน มันคือการแสดงว่า คนไทยเรา ขณะที่ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย เรายังรัก และสามัคคีกัน และประเทศเพื่อนบ้านที่เรากำลังรบอยู่ กำลังเดินเข้าสนาม เราไม่มีการโห่ เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะมันเป็นเรื่องของการกีฬา

เพราะฉะนั้นภารกิจเมื่อวานผ่านพ้นไป กว่าตัวเองจะได้นอน ก็คือประมาณตี 2 เพราะต้องสรุป ถอดบทเรียนว่า ผิดพลาดเรื่องอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขนส่ง โลจิสติกส์ อาหารหรืออะไรก็ตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และถูกวิพากษ์วิจารณ์เราต้องรับมาแล้วแก้ แต่เมื่อแก้แล้วดีแล้วยังวิพากษ์วิจารณ์อีก ก็ค่อยว่ากัน