"ฮุนเซน" ยันกัมพูชาไม่ได้ใช้เงินจีน จัดซีเกมส์ ครั้งที่ 32 เหน็บคนไทยชอบดูถูก-ปั้นน้ำเป็นตัว

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 68 สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอบโต้ข้อกล่าวหาของชาวเน็ตไทย ที่บอกว่ากัมพูชาใช้เงินจากจีนในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 เมื่อปี 2566

ข้อความตอบโต้ดังกล่าวมีขึ้น หลังจาก สมเด็จฯ ฮุน เซนต์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอพิธีปิดการแข่งขันซีเกมส์ 2023 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา และมีชาวเน็ตไทยเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก บางส่วนกล่าวหาว่า ถ้อยคำของฮุน เซน มีเจตนาด้อยค่าประเทศไทย ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ปี 2025

สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ โดยย้ำว่า เขาไม่มีเจตนาที่จะเปรียบเทียบกัมพูชากับประเทศอื่น พร้อมเสริมว่าแต่ละชาติย่อมมีแนวทางในการบริหารจัดการกิจการของตนเอง

นอกจากนี้ เขายังได้ตำหนิความคิดเห็นของชาวเน็ตไทยบางส่วน ที่ระบุว่าไทยเป็นประเทศร่ำรวย และกัมพูชาเป็นประเทศยากจน โดยบอกว่า “สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ คนไทยบางคนอ้างว่า กรุณาอย่าเปรียบเทียบไทยกับกัมพูชา เพราะกัมพูชาจัดซีเกมส์โดยใช้เงินจีน” ซึ่งฮุน เซน ตำหนิความคิดเห็นเหล่านี้ว่าเป็นตัวอย่างของบุคคล หรือลักษณะนิสัยของคนไทยที่ชอบดูถูกผู้อื่นและปั้นน้ำเป็นตัว

สมเด็จฯ ฮุน เซน ยอมรับว่า จีน โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ให้ทุนสนับสนุนการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช ที่ใช้สำหรับพิธีเปิดและปิดซีเกมส์ รวมถึงการแข่งขันกีฬาบางประเภท ซึ่งเขาก็ได้แสดงความขอบคุณต่อความช่วยเหลือนี้ แต่ก็ย้ำว่าการสนับสนุนดังกล่าว ไม่ได้ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันกีฬา

ฮุน เซน ระบุว่า การแข่งขันซีเกมส์มีหลายรายการ บางรายการจัดในกรุงพนมเปญ และบางรายการจัดในต่างจังหวัด โดยในกรุงพนมเปญ นอกจากสนามที่รัฐบาลสร้างขึ้นหลังปี 1979 แล้ว ยังมีสนามโอลิมปิก ที่สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1960 ด้วย ซึ่งเป็นสถานที่แข่งวอลเลย์บอลและฟุตบอล และเป็นที่ที่ทีมฟุตบอลไทยแพ้อินโดนีเซียเป็นครั้งแรก จนทำให้นักเตะไทยไปมีเรื่องชกต่อยกับนักเตะและโค้ชอินโดนีเซีย กัมพูชาในฐานะเจ้าภาพจึงได้หาทางป้องกันความขัดแย้ง

หากพูดถึงค่าใช้จ่ายในการแข่งขัน ซึ่งฮุน เซน ย้ำว่ากัมพูชาไม่ได้ใช้เงินของต่างชาติ หรือเงินจีนแม้แต่แดงเดียวสำหรับการจัดการแข่งขัน

ในคำชี้แจงนี้ สมเด็จฯ ฮุน เซน ยังได้แจกแจงรายละเอียดการเงินของกัมพูชาสำหรับซีเกมส์ 2023 โดยเน้นเรื่องการวางแผนงบประมาณระยะยาวและวินัยทางการคลัง

เขากล่าวว่า เขาได้มอบหมายให้พลเอก เตีย บัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (ในขณะนั้น) เป็นผู้นำคณะกรรมการจัดการแข่งขัน โดยมีรองนายกรัฐมนตรี อูน พันธ์มุนีรัตน์ และนายทอง ขุน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา คอยช่วยเหลือ

เขาได้ชื่นชมนายเกียรติ ชน และนายอูน พันธ์มุนีรัตน์ ที่ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้าน บริหารการเงินของประเทศเป็นอย่างดี ซึ่งฮุน เซน ชมสองคนนี้ว่าไม่ใช่พวกฉ้อโกง แต่เป็นคนประหยัด โดยเฉพาะนายอูน ที่จัดสรรงบประมาณได้อย่างน่าเชื่อถือและสอดคล้องกับนโยบาย

สมเด็จฯ ฮุน เซน กล่าวว่า ตนเองได้สั่งการให้นายอูน และเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นๆ สำรองเงินสดไว้เพื่อจ่ายเงินเดือน หากต้องการประหยัดเงิน หาได้ 10 ต้องใช้เพียง 7 หรือ 8 และเก็บออม 2 หรือ 3 ทำให้ก่อนโควิด กัมพูชามีเงินเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเขาก็วางแผนจะถอนออกมา 1,500 - 2,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุนสร้างสะพานและคลอง น่าเสียดายที่โควิดเข้ามาทำลายชีวิตประชาชน ทำให้รัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้งบประมาณส่วนนี้เพื่อปกป้องชีวิตและช่วยเหลือประชาชน อย่างไรก็ตาม เงินสดในคลังยังสามารถครอบคลุมการจ่ายเงินเดือนได้ถึงเดือนละสองครั้ง

สำหรับซีเกมส์ 2023 ฮุน เซน ย้ำว่ารัฐบาลหลีกเลี่ยงการใช้งบประมาณแผ่นดินปี 2566 ทั้งหมด เพราะจะกระทบต่อโครงการลงทุนต่างๆ แต่ใช้วิธีจัดสรรเงินเกือบ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ตั้งแต่ปี 2561 ถึง 2565 รวมเป็นเงินประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และตั้งงบประมาณเพิ่มเติมอีก 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐในกฎหมายงบประมาณปี 2566

ภายใต้การบริหารจัดการที่ดีนี้ ฮุน เซน เสริมว่ากัมพูชามีการใช้จ่ายจริงเพียง 118 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งครอบคลุมทั้งการจัดการแข่งขันกีฬา การดูแลนักกีฬาต่างชาติ ที่พัก และอาหาร

เขากล่าวว่า การตัดสินใจของกัมพูชาที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้นักกีฬาที่เข้าร่วม เป็นการตัดสินใจของเขา เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีในอาเซียนผ่านกีฬา

เขาระบุว่า แม้กัมพูชาจะเป็นประเทศยากจน ขาดแคลนทรัพยากร แต่ก็ไม่เคยแล้งน้ำใจ โดยย้ำว่ากัมพูชาใช้เงินเกือบ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการดูแลนักกีฬาต่างชาติ

เมื่อรวมการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์เข้าไปด้วย ยอดค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 126 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อรวมเงินรางวัล ยอดรวมการใช้จ่ายอยู่ที่ 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่ตั้งไว้ 150 ล้านดอลลาร์ สำหรับกัมพูชา อาจจะแตกต่างจากประเทศไทยตรงที่ ตั้งแต่เริ่มเตรียมการก่อสร้างจนถึงการแข่งขันและจบการแข่งขันเป็นเวลากว่า 6 ปี พวกเขาไม่เคยโทษกันหรือตะโกนว่าเงินขาด หรือบ่นเรื่องค่าใช้จ่าย แม้ว่าคนไทยบางคนจะดูถูกกัมพูชาว่าเป็นประเทศยากจน แต่นี่คือวิธีคิดและการใช้จ่ายของประเทศยากจนที่คนบางกลุ่มที่แสร้งทำเป็นรวยกำลังดูถูกพวกเขาอยู่

สมเด็จฯ ฮุน เซน เรียกร้องให้ชาวเน็ตไทยหยุดกล่าวอ้างซ้ำๆ ว่ากัมพูชาจัดงานโดยใช้ “เงินจีน” โดยระบุว่าการใช้คำพูดเช่นนั้น ไม่เพียงแต่ไม่ให้เกียรติกัมพูชา แต่ยังเป็นการดูถูก หรือตบหน้ามหาอำนาจอย่างจีนอีกด้วย

เขายังแสดงความหวังว่าประเทศไทยจะประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ 2025 และจัดการกับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การเปรียบเทียบหรือการเอาชนะกันบนโลกออนไลน์

นอกจากนี้ ฮุน เซน ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมขอสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของกัมพูชา และอธิบายให้ทั้งประชาชนชาวกัมพูชาและชาวไทยได้รับทราบ”