ต่างประเทศ

กัมพูชาขอนานาชาติ ร่วมมือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลั่น “อย่าโทษเราฝ่ายเดียว”

31 ต.ค. 2568

257 views

กระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาได้ออกมาตอบโต้ หลังสื่อสิงคโปร์รายงานข่าวการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใหญ่ที่ใช้กัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการ โดยยืนยันว่ารัฐบาลกำลังเดินหน้าปราบปรามอย่างจริงจัง แต่นานาชาติก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย ชี้ปัญหานี้จะโทษกัมพูชาเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้

พลเอก เขียว โสภาค โฆษกกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาเผยว่า กัมพูชากำลังดำเนินการอย่างสุดความสามารถเพื่อปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ หลังจากก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ข่าวแชนแนลนิวส์เอเชีย หรือ CNA ของสิงคโปร์รายงานว่าตำรวจสิงคโปร์ได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 34 คน (เป็นชาวสิงคโปร์ 27 คน และเป็นชาวมาเลเซีย 7 คน) ที่เป็นสมาชิกของแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา

โฆษกกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาย้ำว่า รัฐบาลกัมพูชาไม่เคยสนับสนุนอาชญากรรมเหล่านี้ เพราะมันทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาข้ามชาตินี้อย่างจริงจัง เขากล่าวว่า พวกเขาจะโทษกัมพูชาเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ เราต้องทำงานร่วมกันเพื่อปราบปรามอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ทางการกัมพูชาก็ทำงานอย่างหนักเพื่อจัดการและฟื้นฟูชื่อเสียงของประเทศ

และเพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่น ทางกัมพูชาได้เผยผลการจับกุมครั้งใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน ถึง 14 ตุลาคม กัมพูชาได้จับกุมชาวต่างชาติที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมกับแก๊งสแกมเมอร์ในกรุงพนมเปญและ 17 จังหวัด แล้ว 3,455 คน โดยถูกส่งตัวขึ้นศาลแล้ว 75 คน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ตำรวจยังได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 65 คนที่กรุงพนมเปญและจังหวัดกัมปอต โดยชาวจีน 7 คน และเวียดนามอีก 58 คน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีการหลอกลวงแบบโรแมนซ์สแกม (Romance Scam) ที่มุ่งเป้าหมายไปที่เหยื่อในต่างประเทศ

ขณะเดียวกัน ทางการกัมพูชายังได้ร่วมมือกับทางการเกาหลีใต้จับกุมชาวต่างชาติได้ 86 คน ณ สถานที่แห่งหนึ่งในเขตปอร์เซนเจย ของกรุงพนมเปญ

นอกจากนี้ รัฐบาลกัมพูชายังได้ยกระดับความร่วมมือกับนานาชาติอย่างจริงจัง โดยเตรียมจัดตั้ง "คณะทำงานร่วมกัมพูชา-เกาหลี" ในเดือนหน้าเพื่อปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์โดยเฉพาะ หลังการหารือของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตและประธานาธิบดีอี แจ-มยอง เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา รวมถึงตกลงกับสหรัฐอเมริกาเพื่อเพิ่มความร่วมมือในการต่อสู้กับแก๊งสแกมเมอร์ หลังพบว่าชาวอเมริกันตกเป็นเหยื่อและสูญเงินไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์


แท็กที่เกี่ยวข้อง  กัมพูชา

คุณอาจสนใจ

Related News