“โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐฯ เตือน ชาติใดที่คิดตอบโต้เรื่อง จะใช้ยาแรงเก็บภาษีขึ้นไปอีก

ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” เตือนชาติใดก็ตามที่คิดจะตอบโต้สหรัฐฯ จะถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นไปอีก จดหมายแจ้งอัตราภาษีที่ส่งไปให้แต่ละประเทศ ถือว่า “เป็นข้อเสนอสุดท้ายแล้ว” พร้อมบอกอีกว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้ยังไม่ยุติธรรมในมุมมองของสหรัฐฯ เพราะเเงินที่เล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับความเสียหายที่ประเทศต่างๆ ได้สร้างไว้ให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” เตือนชาติใดก็ตามที่คิดจะตอบโต้สหรัฐฯ ว่าจะถูกขึ้นภาษีศุลกากรเพิ่ม หลังจากที่เมื่อวานนี้ผู้นำสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีให้กับ 14 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยที่จะต้องเผชิญกับภาษีในอัตรา 36% พร้อมขู่ประเทศที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษีว่า หากมีการตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ พวกเขาก็จะถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้ยังถือว่าไม่ยุติธรรมในมุมมองของสหรัฐฯ เพราะเป็นจำนวนเงินที่เล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับความเสียหายที่ประเทศต่างๆ ได้สร้างไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ทรัมป์ กล่าวว่า “ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนไหนที่กล้าทำแบบนี้ ผมทำมาแล้วตั้งแต่สมัยแรก ทั้งกับจีนและประเทศอื่นๆ เรามีรายได้จากภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นหลายแสนล้านดอลลาร์โดยที่ไม่มีภาวะเงินเฟ้อ นี่เป็นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จทางการเงินมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเรา ผมคิดว่าในวาระนี้มันจะยิ่งดีขึ้นกว่าเดิม”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจดหมายแจ้งอัตราภาษีที่ส่งไปนั้นเป็นข้อเสนอสุดท้ายแล้วหรือไม่ และยังสามารถเจรจาต่อรองได้อีกหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า “ก็ถือว่าเป็นข้อเสนอสุดท้ายแล้ว”

ผู้สื่อข่าวยังถามอีกว่า กำหนดการใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ถือเป็นเส้นตายที่เลื่อนไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ ทรัมป์ก็ตอบว่า “ผมว่ามันก็แน่นอนนะ แต่ก็ไม่ถึงกับตายตัว 100% ถ้าพวกเขาโทรมาแล้วบอกว่าอยากจะทำในแนวทางอื่น เราก็พร้อมจะรับฟัง”

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวถึงการทำข้อตกลงกับบางประเทศว่า สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงกับสหราชอาณาจักรและจีนแล้ว และใกล้จะทำข้อตกลงกับอินเดียได้สำเร็จ ส่วนประเทศอื่นๆ ที่เคยเจรจาด้วยนั้น เขาไม่คิดว่าจะสามารถตกลงกันได้ จึงต้องส่งจดหมายแจ้งไป

ทรัมป์กล่าวว่า “ถ้าอยากจะร่วมมือด้วย นี่คือสิ่งที่คุณต้องจ่าย ดังนั้น สำหรับผมแล้ว ถือว่าเราเสร็จสิ้นขั้นตอนการส่งจดหมายไปยังประเทศต่างๆ เพื่อแจ้งว่าพวกเขาต้องจ่ายภาษีเท่าไหร่ บางประเทศอาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้เล็กน้อย ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีเหตุผลที่ดีพอ แต่เราจะไม่ทำอย่างไม่เป็นธรรม และอันที่จริงแล้ว นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับสิ่งที่เราควรจะได้รับ เราสามารถเรียกร้องได้มากกว่านี้อีกมาก แต่เพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่เรามีกับหลายประเทศที่ดีๆ เราจึงเลือกที่จะทำในแนวทางของผมเอง”