นายกฯ ญี่ปุ่นเยือนเวียดนาม หารือเห็นพ้องยึดมั่นกฎเกณฑ์การค้าโลก ท่ามกลางภาษีทรัมป์

นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น เดินทางเยือนเวียดนาม และพบปะหารือกับผู้นำ โดยทั้ง 2 ชาติ เห็นพ้องต้องการว่าจะส่งเสริมการค้าทวิภาคีและยึดมั่นในเกณฑ์การค้าโลก ท่ามกลาง “ภาษีทรัมป์” สงครามการค้าของสหรัฐฯ

การเดินทางเยือนเวียดนามครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีอิชิบะ และเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทั้งสองประเทศกำลังเผชิญกับความท้าทายจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาโดยเวียดนามถูกตั้งกำแพงภาษีสูงถึง 46% ส่วนญี่ปุ่นโดน 24% แม้จะมีการระงับชั่วคราวแต่ทั้งสองก็ยังคงถูกเก็บภาษี 10% กับสินค้านำเข้าทั้งหมด ซึ่งกระทบต่อทั้งสองชาติที่เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ไปยังสหรัฐฯ

นายกฯ อิชิบะกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการหารือกับนายกรัฐมนตรีฝ่าม มิง จิ๋งห์ ของเวียดนามว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้น และผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นเช่นกัน และว่าญี่ปุ่นกับเวียดนามจะร่วมมือกันรักษาระเบียบการค้าระหว่างประเทศที่เสรีและเปิดกว้างโดยตั้งอยู่บนหลักนิติธรรม

ถ้อยแถลงดังกล่าวสอดคล้องกับคำพูดของนายกรัฐมนตรีจิ๋งห์ที่บอกว่าทั้งสองประเทศเห็นพ้องที่จะสนับสนุนระเบียบการค้าเสรีระดับโลกที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ

ในการพบหารือครั้งนี้ ทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกันทั้งหมด 4 ฉบับ ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการค้าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และการวิจัยและพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์

ทั้งนี้ เวียดนามเป็นฐานการผลิตสินค้าที่สำคัญของบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า, แคนนอน และพานาโซนิคโดยมีเม็ดเงินลงทุนมากถึง 78,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2.6 ล้านล้านบาท) นอกจากนี้ ธนาคารญี่ปุ่นยังถือหุ้นเชิงกลยุทธ์ในสถาบันการเงินชั้นนำของเวียดนามด้วย

ทางด้าน นายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ของเวียดนามได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นเพิ่มการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลังได้พบปะกับนายกฯ อิชิบะเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมกรุงฮานอยกับนครโฮจิมินห์มูลค่ามหาศาลกว่า 67,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2.2 ล้านบาท) แต่ยังไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจนในการหารือครั้งนี้