ต่างประเทศ
ไฟป่าลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ ยังลุกลาม เผาผืนป่าแล้วกว่า 55,000 ไร่
โดย nutda_t
5 ชั่วโมงที่แล้ว
100 views
สืบเนื่องจากกรณีที่ นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย สั่งสอบกรณีที่ลอสแอนเจลิส ขาดแคลนน้ำในการดับไฟ และหัวดับเพลิงในพื้นที่บางส่วนของย่านแปซิฟิกพาลิเซดส์ มีปัญหาจากการสูญเสียแรงดันน้ำ หลังมีรายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 7 มกราคม ที่เกิดไฟป่าปะทุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพบว่า กำลังสูบน้ำจากท่อส่งแรงดันน้ำต่ำมาก ขณะที่หัวดับเพลิงก็แห้ง ทำให้ไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาได้
ล่าสุด หน่วยงานด้านน้ำและไฟฟ้าของนครลอสแอนเจลิส ได้ออกมายืนยัน ว่าหัวดับเพลิงทุกหัวในย่านพาลิเซดส์ ใช้งานได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดไฟป่าครั้งใหญ่ ขณะเดียวกัน ยังบอกว่าไม่มีเหตุไฟฟ้าดับเกิดขึ้นที่สถานีสูบน้ำระหว่างเกิดไฟไหม้ และน้ำยังคงถูกส่งไปยังพื้นที่ตามปกติ
อย่างไรก็ดี ทางหน่วยงานยอมรับว่า เนื่องจากความต้องการน้ำในการดับไฟสูงมากทำให้แรงดันน้ำลดลง ส่งผลให้หัวดับเพลิงประมาณ 20% ในย่านพาลิเซดส์ไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาได้อย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน มีการประเมินออกมาแล้วว่าไฟป่าในครั้งนี้ อาจสร้างความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา
ทางแอคคิวเวเธอร์ (AccuWeather) ประเมินในเบื้องต้นว่า ไฟป่าในลอสแอนเจลิส อาจสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและความสูญเสียทางเศรษฐกิจสูงถึง 135,000 – 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4.68 ล้านล้าน – 5.2 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็นเกือบ 4% ของ GDP ประจำปีของรัฐแคลิฟอร์นีย
นายโจนาธาน พอร์เตอร์ หัวหน้านักอุตุนิยมวิทยาของ แอคคิวเวเธอร์ (AccuWeather) กล่าวว่าไฟป่าลอสแอนเจลิสครั้งนี้ อาจจะเป็นไฟป่าที่สร้างความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของทั้งแคลิฟอร์เนียและสหรัฐอเมริกา เนื่องจากไฟป่าเริ่มปะทุขึ้นในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นและเป็นที่ตั้งของบ้านเรือนที่มีมูลค่าสูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
แอคคิวเวเธอร์ ได้ประเมินมูลค่าความเสียหายจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านเรือน, ธุรกิจ, โครงสร้างพื้นฐาน, และยานพาหนะ ตลอดจนค่าใช้จ่ายในด้านการดูแลสุขภาพให้กับประชาชนทั้งในทันทีและระยะยาว การสูญเสียรายได้ รวมถึง ผลกระทบจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่าในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ไฟป่าพาลิเซดส์ ไฟป่าที่ใหญ่ที่สุดจากทั้งหมด 6 จุด ที่กำลังลุกไหม้ในนครลอสแอนเจลิส กำลังลุกลามไปทางทิศตะวันออก เข้าใกล้กับย่านแมนเดวิลล์แคนยอน และย่านเบรนต์วูด ซึ่งเป็นย่านหรูที่มีคนดังอาศัยอยู่มากมาย และยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ “เก็ตตี้ เซนเตอร์” ที่เก็บผลงานศิลปะระดับโลกไว้กว่า 125,000 ชิ้น
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงต้องระดมสรรพกำลัง ทั้ง เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และรถดับเพลิงมาควบคุมไฟ ขณะเดียวกัน ทางการก็ประกาศสั่งอพยพประชาชนเพิ่มอีก ตามรายงานระบุว่า ตอนนี้ มีประชาชนได้รับคำสั่งให้อพยพแล้วกว่า 153,000 คน และอีกประมาณ 166,000 คน ได้รับคำแนะนำให้เตรียมพร้อมสำหรับการอพยพ
จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของสหรัฐฯ สามารถควบคุมไฟป่าพาลิเซดส์ได้เพียงแค่ 11% เท่านั้น ขณะที่ผืนป่าถูกเผาไหม้ไปแล้วกว่า 55,000 ไร่
ส่วนไฟป่าที่มีขนาดใหญ่รองลงมา คือไฟป่าอีตัน ที่กำลังเผาผลาญลอสแอนเจลิสทางทิศตะวันออก ตอนนี้เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 35,000 ไร่ และเจ้าหน้าที่ควบคุมได้ประมาณ 15%
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ล่าสุด เจ้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมไฟป่าได้แล้วอย่างน้อย 2 จุด คือ ไฟป่าแคนเนธ (Kenneth Fire) และไฟป่าเฮิร์สต์ (Hurst fire)
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 16 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้เสียชีวิตจากไฟป่าอีตัน 11 คน และไฟป่าพาลิเซดส์ 5 คน แต่ยังมีคนสูญหายอีก 13 คน อย่างไรก็ดี คาดว่าตัวเลขอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกเมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถเข้าไปตรวจสอบบ้านเรือนต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหายได้ ขณะที่บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างถูกเผาทำลายไปกว่า 12,000 แห่ง
ขณะเดียวกัน ล่าสุด มีรายงานว่าลอสแอนเจลิส เกิดกระแสลมพัดแรงขึ้นมาอีกรอบ ซึ่งเป็นไปตามประกาศของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ ที่บอกว่าจะมีกระแสลมแรงตั้งแต่คืนวันเสาร์จนถึงเช้าวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น โดยอุตุนิยมวิทยาระบุว่า กระแสลมอาจมีความเร็วต่อเนื่องสูงสุดประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่จะมีลมกระโชกแรงถึง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั่นจึงอาจทำให้สถานการณ์แย่ขึ้นไปอีก
ส่วนสาเหตุของไฟป่ายังไม่สามารถทราบได้อย่างแน่ชัด แต่ล่าสุด มีรายงานว่าสำนักงานดับเพลิงของนครลอสแอนเจลิส ได้เข้าไปสอบสวนบริษัทเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย เอเดสัน (Southern California Edison) หรือ SCE ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้ารายใหญ่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากได้รับข้อมูลว่าสายไฟของบริษัท SCE อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่าเฮิร์สต์แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีข้อสรุป
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า SCE ระบุในเอกสารที่ส่งถึงหน่วยงานกำกับดูแลว่า พบสายไฟที่หลุดลงมาที่หอส่งไฟฟ้า ซึ่งเชื่อมโยงกับวงจรไฟฟ้าแรงสูง แต่ไม่ทราบว่าความเสียหายที่พบนี้เกิดขึ้นก่อนหรือหลังไฟป่า
SCE เปิดเผยด้วยว่า ข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่ามีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติเกิดขึ้นในวงจรไฟฟ้าเมื่อเวลาประมาณ 22 นาฬิกา 11 นาที ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกันกับที่มีรายงาน ไฟป่าเฮิร์สต์ (Hurst Fire) ตอนเวลาประมาณ 22.10 น.ของวันที่ 7 ม.ค.
นอกจากจะทำให้บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างพังเสียหายแล้ว ไฟป่าครั้งนี้ยังทำให้เกิดควันไฟลอยปกคลุมทั่วนครลอสแอนเจลิสด้วย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องออกคำเตือนเรื่องคุณภาพอากาศ โรงเรียนต่าง ๆ ได้ยกเลิกการเรียนการสอน และนักวิทยาศาสตร์เตือนถึงผลกระทบที่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตจากควันไฟป่า
มีรายงานว่าประชาชนที่กังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากควันไฟป่า แห่ไปซื้อเครื่องฟอกอากาศตามร้านค้าต่าง ๆ จนหมดเกลี้ยง บางคนเริ่มติดเทปที่หน้าต่างเพื่อกันควันไม่ให้เข้าบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ลอสแอนเจลิสขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านโดยเฉพาะในพื้นที่มีควันฟุ้งกระจายอย่างเห็นได้ชัด
แท็กที่เกี่ยวข้อง ไฟป่าแอลเอ ,ไฟไหม้ป่า ,ไฟป่าลอสแอนเจอลิส