ต่างประเทศ

สรุปเหตุการณ์ 'ทรัมป์' ถูกลอบยิง เปิดพฤติกรรมมือปืนวัย 20 - ย้อนสถิติสหรัฐฯ ลอบสังหารบ่อย

โดย passamon_a

15 ก.ค. 2567

161 views

ความคืบหน้าเหตุการณ์ลอบสังหาร โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และยังเป็นว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ที่ได้รับบาดเจ็บ กระสุนถูกบริเวณหู เหตุเกิดระหว่างการปราศรัยบนเวทีหาเสียง ล่าสุด FBI เผยตัวผู้ก่อเหตุแล้ว เป็นชายวัยเพียง 20 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตทันที ตรงจุดซุ่มยิง


เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะทรัมป์กำลังปราศรัยอยู่ ที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ของสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 18 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น โดยขณะที่ทรัมป์กำลังพูดอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น ทรัมป์เอามือมาจับที่หูของตัวเอง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของประชาชนจำนวนหลายพันคน ที่มาฟังการปราศรัย


เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบเข้ามาคุ้มกันเขา และพาตัวทรัมป์ที่มีใบหน้าเปื้อนเลือดลงจากเวที ทรัมป์ได้ชูกำปั้นขวาขึ้นฟ้า ท่ามกลางเสียงตะโกนของผู้สนับสนุนว่า "USA! USA!" และทรัมป์ก็ถูกนำตัวขึ้นรถ และพาออกไปจากสถานที่จัดงานในทันที


พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เขาเห็นชายคนหนึ่งพร้อมกับปืนไรเฟิลคลานอยู่บนหลังคา ที่อยู่ใกล้เคียงกับที่หาเสียง ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายหนึ่ง บอกว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะยิงมาจากระยะประมาณ 60 ถึง 90 เมตร โดยหลังเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพร้อมอาวุธครบมือก็ปีนขึ้นไปบนหลังคา เพื่อดูความสงบเรียบร้อย


โดยก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้น ทรัมป์กำลังปราศรัยโจมตีนโยบายการย้ายถิ่นฐานของประธานาธิบดี โจ ไบเดน และบอกว่า ไบเดนเป็นประธานาธิบดีที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ


รายงานระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิต 2 คน โดยรายแรกเป็นมือปืนที่ถูกเจ้าหน้าที่จากหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ สังหารในที่เกิดเหตุ และอีกรายเป็นผู้ที่มาฟังการปราศรัย ซึ่งถูกยิงเข้าที่ศีรษะ และยังมีคนได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน


หลังเหตุการณ์ ทรัมป์ยังได้ออกมาเปิดเผยผ่าน ทรูธ โซเชียล (Truth Social) ว่า เขาถูกยิงที่บริเวณใบหู พร้อมอธิบายว่า ได้ยินเสียงหวีดและรู้สึกว่ากระสุนปืนได้ทะลุผิวหนัง และเขายังได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่สามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที


และนี่เป็นภาพขบวนรถตำรวจหลายคันที่อารักษาทรัมป์ ขณะกำลังเดินทางบนท้องถนนในรัฐนิวเจอร์ซีย์ โดยทรัมป์ได้เดินทางกลับจากรัฐรัฐเพนซิลเวเนีย ด้วยเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งมีรายงานว่า เขาได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และเดินทางกลับเข้าที่พักส่วนตัวแล้ว


สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ FBI ออกแถลงความคืบหน้าเหตุลอบยิงอดีตประธานาธิบทรัมป์ โดย เควิด โรเจค (Kevin Rojek) เจ้าหน้าที่ของ FBI กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามในการลอบสังหารทรัมป์ โดยผู้สงสัยก่อเหตุลอบยิง เป็นชายวัย 20 ปี ชื่อว่า โทมัส แมทธิว ครูกส์ จากเมืองเบเธลพาร์ค รัฐเพนซิลเวเนีย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ทราบแรงจูงใจที่แน่ชัด


มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โทมัส แมทธิว ครูกส์ ว่า เขาอาศัยอยู่ในเมืองเบเธอพาร์ค ชานเมืองพิตส์เบิร์ก ห่างจากที่ชุมนุมหาเสียงของทรัมป์ทางใต้ประมาณ 56 กิโลเมตร เขาเรียนจบมัธยมจากโรงเรียนเบเธอล พาร์ค ไฮ สคูล เมื่อปี 2565 จากข้อมูลของผู้มีสิทธิเลือกตั้งของรัฐเพนซิลเวเนีย ครูกส์ลงทะเบียนเป็นผู้ลงคะแนนในสังกัดพรรครีพับลิกัน สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้ที่เขาจะมีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ดี ประวัติของคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ พบว่า ครูกส์เคยบริจาคเงิน 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 540 บาท) ให้กับองค์กรทางการเมือง Progressive Turnout Project ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคเดโมแครต เมื่อเดือนมกราคม 2564


ด้าน ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทรัมป์ บอกว่า เขารู้สึกขอบคุณที่ทรัมป์ปลอดภัยและอาการดีขึ้น เขาขอภาวนาให้ทรัมป์และครอบครัว รวมถึงทุกคนที่อยู่ในงานหาเสียงปลอดภัย นอกจากนี้ ไบเดนยังประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ความรุนแรงแบบนี้ไม่สมควรเกิดขึ้นทุกที่ในสหรัฐอเมริกา มันเป็นสิ่งที่แย่มาก และว่าเขาได้รับฟังรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังพยายามติดต่อไปพูดคุยกับทรัมป์ ประธานาธิบดีไบเดน ยังเรียกร้องให้ทุกคนออกมาประณามเหตุการณ์นี้ด้วย


รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ก็ได้โพสต์ข้อความลงบนเอ็กซ์ (X) ว่า ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และเธอขอภาวนาให้ทรัมป์กับครอบครัว และทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บปลอดภัย พร้อมกับชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกนายที่สามารถจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว


เช่นเดียวกับผู้นำหลายประเทศ ก็ออกมาแสดงท่าทีและประมาณเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทรัมป์ ผ่านโลกออนไลน์ เช่น นายกรัฐมนตรีอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมัน ประธานาธิบดีเอ็นมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และนายกรัฐมนตรีนเรทรา โมดี ของอินเดีย เป็นต้น โดยผู้นำโลกได้อวยพรให้ทรัมป์หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว


สำหรับสหรัฐฯ แม้จะเป็นประเทศเสรีภาพ และมีความปลอดภัยสูง ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ก็มีความพยายามในการลอบสังหารประธานาธิบดี อดีตประธานาธิบดี และผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หลายครั้ง โดยพบว่าสำเร็จ 5 ครั้ง เช่น เหตุการณ์ของอดีตประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น ในปี 1865 และและอดีตประธานาธิบจอห์น เอฟ เคนเนดี ปี 1963 ขณะที่การลอบสังหารไม่สำเร็จ มีอยู่ 11 ครั้ง และครั้งนี้ ของโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นครั้งที่ 12


คุณอาจสนใจ