เร่งล่า 'ชายใส่หูกระต่าย' ตะโกน "ดันเลยๆ" ต้องสงสัยเป็นต้นเหตุ 'โศกนาฏกรรมอิแทวอน'

จากกรณี เมื่อคืนวันเสาร์ 29 ต.ค. ล่วงเข้าวันที่ 30 ตุลาคม 65 ในการฉลองงานเทศกาลฮาโลวีน ที่ย่านเที่ยวกลางคืนอิแทวอนของกรุงโซล เกาหลีใต้ ได้เกิดเหตุ 'โศกนาฎกรรมอิแทวอน' ผู้คนได้เบียดเสียด ล้มลุกคลุกคลาน และเหยียบกัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 154 ราย บาดเจ็บ 116 ราย และบาดเจ็บสาหัส 33 ราย

โดย ผู้เสียชีวิต 154 ราย เป็นชาวเกาหลีใต้ 128 ราย และเป็นชาวต่างชาติ 26 ราย

• อิหร่าน 5 ราย
• จีน 4 ราย
• รัสเซีย 4 ราย
• สหรัฐอเมริกา 2 ราย
• ญี่ปุ่น 2 ราย
• ฝรั่งเศส 1 ราย
• ออสเตรเลีย 1 ราย
• นอร์เวย์ 1 ราย
• ออสเตรีย 1 ราย
• เวียดนาม 1 ราย
• คาซัคสถาน 1 ราย
• อุซเบกิสถาน 1 ราย
• ศรีลังกา 1 ราย
• ไทย 1 ราย
  

สำนักข่าวยอนฮัป รายงานว่า เจ้าหน้าที่ยังเร่งสอบสวนหาสาเหตุ แต่สันนิษฐานว่า อาจมีผู้คนในฝูงชนบริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งล้มลงและเพราะเป็นซอยแคบที่มีความลาดชัน ประกอบกับจำนวนผู้ร่วมงานที่หนาแน่น ส่งผลให้คนที่เดินไหลตามกันสะดุด และล้มระเนระนาด จนเกิดความโกลาหล หลายคนพยายามหนีตาย และยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้าย

-------------

วานนี้ (31 ต.ค. 65) เพจ Drama-addict โพสต์ข้อความ ระบุว่า “กรณีที่อิแทวอน เริ่มมีความคืบหน้าครับ ลูกเพจที่อยู่เกาหลีส่งมา

จากโพสต์เมื่อวันที่ 30 ต.ค. พนักงานคลับได้ยินว่า มีคนตะโกนว่าดันเลยๆ

คำให้การดังกล่าว กำลังเข้าสู่การสืบสวน เพราะจากคำให้การคนในที่เกิดเหตุหลายสิบคนให้การตรงกันว่า มีกลุ่มคนซึ่งเป็นผู้ชาย หนึ่งในนั้นคือ "คนที่ใส่ที่คาดผมหูกระต่าย" คือคนต้นเรื่องตะโกนว่า ให้ดันเลย ดันเลย! และเป็นที่มาของแรงผลักจากคนราวๆ 5-6 คนจากบนเนิน

ทางหน่วยสืบสวนของเกาหลีกำลังพยายามสืบสวนและหาข้อเท็จจริงจากกล้อง CCTV โดยรอบกว่า 52 ตัว และพยายามสืบจากข้อมูลรูปและวิดีโอ ในโซเชียลมีเดียเกาหลีจึงกำลังมีการประกาศขอความร่วมมือว่า หากใครพบเห็นผู้ชายที่ใส่เครื่องหัว หรือที่คาดผมกระต่าย ที่คาดว่าอาจจะเกี่ยวข้อง ให้ช่วยแจ้งเบาะแส

คนที่ให้การให้การต่อว่า หลังจากได้ยินว่า ให้ดันเลย ดันเลย! แล้ว หลังจากนั้น จึงรู้สึกถึงแรงผลักจากทางก่อนลงเนิน จนเกิดเป็นการล้มทับของคนบริเวณทางลงเนิน จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า ผู้ชายคนดังกล่าวและผู้รวมผลักอีกราวๆ 5-6 คน อาจจะมีส่วนต่อที่มาของจากแรงผลักจากบนเนิน

ต่อมา ยังโพสต์ข้อความอีกว่า

“จนท ตำรวจเกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์สื่อระบุมีคำให้การจากผู้รอดชีวิตว่า ตอนเริ่มเกิดเหตุการณ์ที่คนไปเบียดเสียดกันในอิแทวอน และ จนท.กำลังช่วยกันอำนวยความสะดวกในการสัญจร ในตอนแรก แม้คนจะแน่น แต่ยังพอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ

แต่ทันใดนั้น มีคนตะโกนว่า "ผลักเลยๆ" แล้วทันใดนั้นก็เกิดแรงผลักรุนแรงจนคนไถลล้มจากเนินไปกองทับกันเป็นภูเขา จนมีผู้เสียชีวิตนับร้อยในเวลาต่อมา

คนในเหตการณ์หลายคนให้การตรงกันว่า มีคนกลุ่มนึงประมาณ 5-6 คน เป็นคนผลักตามที่มีเสียงตะโกน และหนึ่งในนั้นเป็น 'ชายใส่ที่คาดผมหูกระต่าย'

ตอนนี้ ตำรวจเกาหลีใต้กำลังเร่งสอบปากคำ และเก็บพยานหลักฐานรวมถึงกล้องวงจรปิด เพื่อตามหาตัวคนกลุ่มนี้ และหากคำให้การเป็นจริง คนที่ก่อเหตุเหล่านี้จะต้องถูกดำเนินคดี”
-------------

สำนักข่าวเกาหลีรายงานว่า ตำรวจกำลังตามหาตัว คนที่ใส่หูกระต่าย ในคืนเกิดเหตุ และอยู่ในกลุ่มคลิปภาพนี้ โดยเป็นผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 25 ปี (แต่ไม่เกิน 30 ปี) ซี่งในคลิปจะมีเสียง ผู้ชายคนดังกล่าว บอกเพื่อนว่าให้ดันคนไปข้างหน้า พอเพื่อนช่วยกันดัน เลยทำให้คนด้านหน้าก็หันกลับมา และดันกลับมา จนทำให้เกิดช่องว่างเล็กๆ และก็ดันกันเรื่อยๆ จนมีคนล้มลงไปในช่องว่างดังกล่าว  

กระทั่ง มีเสียงจากคนด้านหน้าตะโกนออกมาว่า "คนข้างหน้าตายแล้ว ช่วยด้วย เพราะตอนนี้ไม่สามารถหายใจได้"

โดยที่เกาหลีใต้ ขณะนี้มีข้อความส่งต่อกัน ใน SMS, อินสตาแกรม บอกต่อๆ กัน ทำนองว่า จะต้องจับตัวคนที่ใส่หูกระต่ายให้ได้ เพราะเป็นคนต้นเหตุ

ทั้งนี้ ตำรวจก็ไล่ดูกล้อง CCTV ในกลุ่มดังกล่าว พบคนที่ใส่หูกระต่ายประมาณ 5-6 คน และกำลังเรียกตัวมาสอบปากคำ ซึ่งในช่วงท้ายของคลิปที่นำเสนอในข่าว จะได้ยินเสียงของผู้ชายหูกระต่ายคนดังกล่าวชัดเจนว่า กำลังตะโกนให้เพื่อน และคนข้างหน้าช่วยกันดัน และก็เกิดเหตุทับกันตายเกิดขึ้น

-------------

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สื่อมวลชน นักวิชาการในเกาหลีใต้ รวมไปถึง ผู้ประกอบการในย่านนั้นชี้ว่า สาเหตุมาจากความหละหลวมในการควบคุมฝูงชนของตำรวจ โดยระบุว่า ตำรวจเหล่านั้นพุ่งเป้าไปที่การจับกุมผู้ใช้ยาเสพติด มากกว่าการควบคุมฝูงชน

โลกโซเชียลของเกาหลีใต้ ยังพากันวิจารณ์ว่า ตำรวจไม่ดูแลจัดการฝูงชนอย่างจริงจัง เช่น ปล่อยให้คนจำนวนมากเกินไปเข้าไปแออัดในสถานีรถไฟใต้ดิน และซอยแคบที่เป็นจุดเกิดโศกนาฏกรรม

-------------

เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (31 ต.ค. 65) ประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล และคิม คุน ฮี ภรรยา ได้นำดอกไม้ไปวางไว้ที่แท่นไว้อาลัย ทั้งคู่ได้ยืนสงบนิ่งให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิต

โดยเกาหลีใต้ประกาศให้เป็นวันไว้อาลัยแห่งชาติทั้งสิ้น 7 วัน โดยจะมีไปจนถึงวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศให้เงินช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิตรายละ 15 ล้านวอน หรือประมาณเกือบ 4 แสนบาท ในส่วนของชาวต่างชาติ กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ได้ประสานกับทูตต่างประเทศเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวต่างชาติที่ได้รับบาดเจ็บ

-------------