ต่างประเทศ

จับตา! ค่าเงินเอเชียอ่อนค่าหนัก เงินวอนเกาหลีร่วงหนักสุด ตั้งแต่วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ปี 2008

13 พ.ค. 2567

1.4K views

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี ของจีน รายงานอ้างผู้เชี่ยวชาญให้จับตาสถานการณ์ค่าเงินในเอเชีย หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดต่ออัตราแลกเปลี่ยน และเศรษฐกิจ ของหลายประเทศในเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น กระทบต่อการส่งออก-นำเข้าที่สูงขึ้น

ในปีนี้ เงินวอนของเกาหลีใต้ร่วงลงมากกว่า 7 % แล้ว เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นการร่วงลงที่รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลกในปี 2008 (วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์)

ทั้งนี้ เศรษฐกิจเกาหลีใต้ซึ่งพึ่งพาการนำเข้าและส่งออกเป็นอย่างสูง กำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากการขาดดุลการค้า เนื่องจากราคานำเข้าที่สูงขึ้น และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ลดลง เนื่องจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ

ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ชัยฮียุล ระบุว่า การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อในประเทศที่เลวร้ายลงในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่า สามารถส่งเสริมการส่งออกในเกาหลีใต้ได้ในระดับหนึ่ง แต่ผลกระทบด้านลบต่อราคานำเข้านั้นค่อนข้างใหญ่กว่า  โดยเฉพาะการนำเข้าน้ำมัน และธัญพืช ที่ราคาเพิ่มขึ้นในช่วงนี้  

---------------

ขณะที่ ในอินโดนีเซีย การอ่อนค่าของเงินรูเปียห์ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อแย่ลงโดยตรง โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมิเตอร์ชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ ได้พุ่งขึ้น 3.05%  เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน ที่ผ่านมา


เนื่องจากการบริโภคภาคครัวเรือนคิดเป็นประมาณ 50% ของจีดีพี ทำให้เศรษฐกิจของประเทศ จึงอาจตกอยู่ในอันตรายที่จะหดตัว หากอัตราเงินเฟ้อรุนแรงขึ้น

---------------

ส่วนญี่ปุ่น เงินเยนของญี่ปุ่นเคยร่วงลงต่ำกว่าระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น ซึ่งการอ่อนค่าของเงินเยน ทำให้ต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบในญี่ปุ่นสูงขึ้น จากการสำรวจพบว่า ราคาอาหารมากกว่า 400 ชนิด เพิ่มขึ้น 31 % โดยเฉลี่ย ในเดือนพฤษภาคม  


โคอิจิ ฟูจิชิโระ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยไดอิจิไลฟ์ ของญี่ปุ่น กล่าวว่า อาหาร และพลังงานส่วนใหญ่ ในญี่ปุ่น พึ่งพาการนำเข้า ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าในประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วไป ด้วยความอ่อนค่าของเงินเยน ราคาสินค้านำเข้าจึงพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะราคาไฟฟ้า ก๊าซ น้ำมัน และอาหาร

รัฐบาลญี่ปุ่น และธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงสองครั้ง เพื่อสนับสนุนค่าเงินเยน ในวันที่ 29 เมษายน และ 2 พฤษภาคม ตามลำดับ


แต่ ฟูจิชิโระ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่น่าจะทำให้เงินเยนพลิกกลับได้ เนื่องจาก สหรัฐฯยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง แม้ว่าญี่ปุ่นจะเข้ามาแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศด้วยมูลค่ารวม 8 หรือ 9 ล้านล้านเยน แต่ก็ยังยากที่จะพลิกกลับแนวโน้มที่อ่อนตัวลงได้ ทำได้เพียงชะลอการลดลงอย่างรวดเร็วของเงินเยนเท่านั้น

------------------

คุณอาจสนใจ

Related News