ต่างประเทศ

เสร็จสิ้นแล้ว! 'ทรัมป์' ชนะ 'แฮร์ริส' ด้วยคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 312 ต่อ 226 เสียง

โดย parichat_p

10 พ.ย. 2567

44 views

การนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใน 50 รัฐและอีก 1 เขตได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว ซึ่งผลปรากฏว่าโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน เอาชนะคามาลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครตด้วยคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 312 ต่อ 226 เสียง แถมยังคว้าชัยชนะในรัฐสมรภูมิทั้ง 7 รัฐด้วย


หลังจากใช้ระยะเวลาในการนับคะแนนมาทั้งหมด 4 วัน ล่าสุด รัฐแอริโซนาเป็นรัฐสุดท้ายที่ประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีออกมา ซึ่งปรากฏว่าทรัมป์คว้าชัยชนะด้วยคะแนนเสียง 52.6% ต่อ 46.4%


ผลที่ออกมาส่งผลให้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งของทรัมป์เพิ่มเป็น 312 เสียง ขณะที่คู่แข่ง คามาลา แฮร์ริสได้ไปเพียง 226 เสียง ส่วนคะแนนเสียงของประชาชน หรือ ป็อปปูล่าโหวต (Popular Vote) ทรัมป์ก็เอาชนะแฮร์ริสไปได้ ด้วยคะแนนกว่า 74 ล้าน หรือคิดเป็น 50.4% ต่อ 70 ล้านเสียง หรือ 47.9%


ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้สมัครคนใดที่ได้รับคะแนนคณะผู้เลือกตั้งถึง 270 ก่อน จากทั้งหมด 538 ก็จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งไป


ทั้งนี้ นอกจากแอริโซนา ซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 11 เสียงแล้ว ทรัมป์ยังกวาดชัยชนะในรัฐสมรภูมิอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น มิชิแกน, เพนซิลเวเนีย, จอร์เจีย, นอร์ทแคโรไลนา, วิสคอนซิน, และเนวาดา


นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีลุ้นที่จะครองอำนาจแบบเบ็ดเสร็จด้วย ทั้งในสภาล่างและสภาสูง โดยผลคะแนนการเลือกตั้งวุฒิสภา ปรากฏว่าพรรครีพับลิกันของทรัมป์ได้ครองเสียงข้างมาก ด้วยคะแนน 53 จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง ส่วนเดโมแครตได้ไป 46 ที่นั่ง


ส่วนผลคะแนนของสภาผู้แทนราษฎร หรือ สภาล่าง 435 ที่นั่ง ล่าสุด พรรครีพับลิกันได้ไปแล้ว 213 ที่ ขณะที่เดโมแครตได้ไป 202 ที่ ซึ่งรีพับลิกันยังขาดอีก 5 ที่เท่านั้น ก็จะครองเสียงข้างมากในสภาแห่งนี้


ดังนั้น หากรีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ ก็จะทำให้พรรคมีอำนาจอย่างมากในการผลักดันนโยบายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การลดภาษีและงบประมาณ การยกเลิกกฎระเบียบด้านพลังงาน และการควบคุมความปลอดภัยตามชายแดน


ส่วนความเคลื่อนไหวในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูง ล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาประกาศยืนยันว่า เขาจะไม่เชิญนางนิกกี้ เฮลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ และนายไมค์ ปอมเอโอ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเข้าร่วมรัฐบาล


อย่างไรก็ดี ทรัมป์ไม่ได้บอกเหตุผลที่แน่ชัด แต่ระบุเพียงว่าเขารู้สึกยินดีมากที่เคยทำงานกับทั้งสองคนในตอนที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก และขอบคุณทั้งสองคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถให้กับรัฐบาล


ขณะเดียวกัน ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็ได้ออกมาประกาศยืนยันว่า เขาจะพบปะหารือกับว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวในวันพุธนี้เพื่อให้การถ่ายโอนอำนาจดำเนินไปอย่างเรียบร้อย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/uOcgbEuyyCE

คุณอาจสนใจ

Related News