นักวิเคราะห์ชี้ '100 วัน โดนัลด์ ทรัมป์' มีความสุดขั้วมากขึ้นเทียบกับสมัยแรก

นาย แมทธิว ดัลเล็ค ผู้สอนวิชาการบริหารจัดการทางการเมือง ที่มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส ว่า ในขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ใกล้จะครบ 100 วัน ของการดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง ก็เริ่มเห็นความแตกต่างจากการดำรงแหน่งสมัยแรกของเขาในปี 2560 มากขึ้น ซึ่งจะเห็นว่าทรัมป์ได้ใช้นโยบายที่รุนแรงสุดขั้วกว่าเดิมมาก      


ดัลเล็ค กล่าวว่า ทรัมป์มีความกล้ามากขึ้น และหลังจากผ่านการถูกสอบสวนหลายปีในทุก ๆ เรื่อง ตั้งแต่แนวทางการทำธุรกิจ ไปจนถึงความสัมพันธ์กับรัสเซีย และการที่ผู้สนับสนุนเขาบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม ทรัมป์ก็มุ่งเน้นไปที่การแก้แค้นฝ่ายตรงข้าม


ทรัมป์ได้ใช้คำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อลงโทษบริษัทกฎหมายที่เข้าร่วมในคดีฟ้องร้องเขา และได้ถอนการคุ้มครองความปลอดภัยจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของเขา ฝ่ายบริหารยังควบคุมตัวนักศึกษาต่างชาติจำนวนมาก และขู่ว่าจะระงับการให้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลแก่มหาวิทยาลัยเกี่ยวกับโครงการความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม ความคิดริเริ่มด้านสภาพอากาศ และการประท้วงที่สนับสนุนปาเลสไตน์  


ดัลเล็ค กล่าวว่า ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างปี 2017 กับช่วงเริ่มต้นวาระที่สองของทรัมป์ คือการใช้แผนงาน โปรเจ็ค 2025 (Project 2025) ซึ่งเป็นแผนงานนโยบาย อนุรักษ์นิยม 900 หน้า ที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนมีส่วนร่วมในการร่างก่อนที่ทรัมป์จะกลับเข้ารับตำแหน่งอีกครั้ง ทรัมป์ได้ใช้คำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมากเพื่อบังคับใช้ข้อเสนอ และแม้แต่ไปไกลกว่านั้นมาก


โดยนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ทรัมป์และพันธมิตรมหาเศรษฐีของเขาอย่าง อีลอน มัสก์ ได้ทำลายรัฐบาลกลาง โดยไล่คนงานออกกว่า 200,000 คน และพยายามยุบหน่วยงานต่าง ๆ และทรัมป์ก็กำลังรื้อถอนหน่วยงานของรัฐบาล เช่น ยูเสด (USAID) และกระทรวงศึกษาธิการ ที่ทรัมป์และผู้สนับสนุนมองว่าไม่เป็นมิตรกับเขา ไม่เป็นมิตรกับขบวนการ


ดัลเล็ค กล่าวว่า ทรัมป์ในช่วงสมัยแรกนั้น เขามีความระมัดระวังมาก และเขาจะถอยห่าง เมื่อตกอยู่ภายใต้แรงกดดันทางการเมือง แต่ในวาระที่สองนั้น ทรัมป์และรัฐบาลของเขามักจะทุ่มเทเต็มที่เมื่อต้องเผชิญกับฝ่ายค้าน โดย ดัลเล็ค ย้ำว่า “ตอนนี้เขากล้ามากขึ้น สุดโต่งมากขึ้น และมุ่งมั่นมากขึ้น ในการดำเนินการตามวาระที่พวกเขาต้องการมานาน”

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/wPeqk7Mmvro