ต่างประเทศ
แคนาดาตอบโต้ 'ทรัมป์' ประกาศตั้งกำแพงภาษีรถนำเข้าจากสหรัฐฯ - จีนลั่นสหรัฐฯต้องเลิกภาษีทันที
โดย passamon_a
4 เม.ย. 2568
577 views
นายกรัฐมนตรีของแคนาดา ประกาศมาตรการตอบโต้กำแพงภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยจะเก็บภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ 25% โดย นาย มาร์ก คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ประกาศว่าพวกเขาจะเก็บภาษีในอัตรา 25% ต่อรถยนต์ทุกคันที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (CUSMA) ซึ่งแคนาดา สหรัฐฯ และเม็กซิโก ทำร่วมกัน โดยจะไม่ส่งผลต่อชิ้นส่วนรถยนต์ และรถยนต์ที่ผลิตในเม็กซิโก
นายมาร์ก กล่าวว่า การกระทำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังมีผลสะท้อนต่อเนื่องที่นี่ ในแคนาดา และทั่วโลก การกระทำทั้งหมดนั้นไม่ชอบธรรม ไม่มีเหตุอันควร และชี้นำในทางที่ผิด ตามความคิดของเรา
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของแคนาดา เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันพุธที่ 2 เม.ย.68 โดนัลด์ ทรัมป์ จัดงานแถลงข่าวที่โรส การ์เดน ของทำเนียบขาว ประกาศและลงนามบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีพื้นฐาน (baseline tariff) ในอัตรา 10% ต่อสินค้าทั้งหมดจากทุกประเทศที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ โดยจะเริ่มในวันเสาร์ที่ 5 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น
นอกจากนั้น ทรัมป์ยังประกาศจะเก็บภาษีต่างตอบแทน (reciprocal tariff) ต่อหลายสิบประเทศที่สหรัฐฯขาดดุลทางการค้าด้วยมากที่สุด โดยจะเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากประเทศเหล่านี้ในอัตราครึ่งหนึ่งจากอัตราภาษีที่ประเทศเหล่านี้ตั้งไว้ต่อสินค้าจากสหรัฐฯ (รวมภาษีพื้นฐานแล้ว) เริ่มในวันที่ 9 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น
ขณะเดียวกัน ทางด้าน กระทรวงพาณิชย์จีน ได้แถลงขอให้สหรัฐฯยกเลิกมาตรการเก็บภาษีในทันที โดยมาตรการดังกล่าวละเลยผลประโยชน์ที่ประเทศคู่ค้าได้รับจากข้อตกลงทางการค้าและระเบียบการค้าเสรีระหว่างประเทศ พร้อมกับให้คำมั่นว่าจีนจะดำเนินการตอบโต้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศด้วย
กระทรวงพาณิชย์จีน ระบุว่า การกระทำของสหรัฐฯนั้นเป็นการเพิกเฉยต่อผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการเจรจาการค้าพหุภาคีตลอดหลายปีที่ผ่านมา และละเลยข้อเท็จจริงที่ว่า สหรัฐฯได้รับประโยชน์อย่างมากจากการค้าระหว่างประเทศมาโดยตลอด และจีนไม่เห็นด้วยอย่างมากกับมาตรการดังกล่าว และจะดำเนินมาตรการตอบโต้เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนเอง
ทั้งนี้ ทรัมป์ ประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 34% นอกเหนือจากภาษี 20% ที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าจีนรวมแตะ 54% ซึ่งใกล้เคียงกับระดับ 60% ที่ทรัมป์เคยขู่ไว้ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง
ผู้ส่งออกจากจีนและผู้ส่งออกจากทุกประเทศจะต้องเผชิญกับภาษีพื้นฐาน 10% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาษี 34% ที่ประกาศเก็บรอบใหม่ สำหรับสินค้าจีนเกือบทุกประเภทที่ส่งไปยังสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อปิดช่องโหว่ทางการค้าที่เรียกว่า เดอ มินิมิส (de minimis) หรือข้อยกเว้นภาษีการนำเข้ากับพัสดุขนาดเล็กจากจีนและฮ่องกง ที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะเดียวกัน รูบี้ ออสแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษา ที่สถาบันโกลบอลเชนจ์ กล่าวว่า “บริษัทจีนได้ย้ายโรงงานผลิตไปที่ประเทศอื่นอย่างเวียดนามและเม็กซิโก เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทั้งนี้ ประเทศดังกล่าวก็เผชิญกับอัตราภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นไม่ได้แตกต่างกัน”
วันเดียวกัน ทางด้าน ญี่ปุ่น ออกมาวิจารณ์คำสั่งรีดภาษีศุลกากรตอบโต้ประเทศคู่ค้าทั่วโลกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง และอาจจะเข้าข่ายละเมิดกฎขององค์การการค้าโลก รวมไปถึงข้อตกลงการค้าทวิภาคี และแม้ว่าบริษัทญี่ปุ่นจะถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในสหรัฐฯ ทว่าญี่ปุ่นก็ไม่ได้รับการยกเว้น โดยทรัมป์ได้ประกาศรีดภาษีนำเข้าจากสินค้าญี่ปุ่นสูงถึง 24%
นาย โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ผมได้แจ้งไปแล้วว่า การรีดภาษีฝ่ายเดียวของสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่ง และผมขอเรียกร้องอย่างจริงจังอีกครั้ง อย่าทำเช่นนี้กับญี่ปุ่น
มูโตะ ยืนยันว่าได้เคยหารือกับ โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ก่อนที่ทรัมป์จะประกาศใช้ฐานภาษีศุลกากรขั้นต่ำ 10% และภาษีสูงเป็นกรณีพิเศษสำหรับบางประเทศ ซึ่งก็ไม่เว้นแม้แต่พันธมิตรทางยุทธศาสตร์อย่างญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ทรัมป์ได้กล่าวไว้ในการแถลงประกาศการขึ้นภาษีว่า “ญี่ปุ่นเป็นชนชาติที่แข็งแกร่งทรหดและยิ่งใหญ่ พวกเขารีดภาษีเรา 46% และมากกว่านั้นอีกสำหรับสินค้าบางชนิด... แต่เราเก็บภาษีพวกเขาแค่ 24%”
แท็กที่เกี่ยวข้อง โดนัลด์ทรัมป์ ,ทรัมป์เก็บภาษีนำเข้า ,ภาษีทรัมป์