ผู้อพยพเมียนมาตามชายแดนไทย ชะตากรรมมืดมน หลัง 'ทรัมป์' เลิกให้เงินช่วยเหลือ

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ผู้อพยพเมียนมาในค่ายผู้อพยพตามแนวชายแดนไทย ต้องเจอกับชะตากรรมที่ไม่แน่นอน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศนโยบายระงับความช่วยเหลือต่างประเทศ

โดย รอยเตอร์ส ได้แพร่ภาพ ขณะที่แพทย์และพยาบาลชาวไทยจำนวนมาก พยายามช่วยชีวิตหญิงชาวเมียนมา วัย 86 ปี ชื่อว่า อาดาบี ที่โรงพยาบาลท่าสองยาง จังหวัดตาก ขณะที่ลูกสาวของเธอเฝ้ามองดูอยู่ทั้งน้ำตา


อาดาบี เป็นหนึ่งในผู้ป่วยที่ป่วยหนักจำนวนหนึ่งที่เดินทางมาที่โรงพยาบาลของรัฐบาลไทย หลังจากบริการด้านการแพทย์ในค่ายผู้ลี้ภัยแม่หละ จังหวัดตาก ต้องหยุดชะงักลง หลังจากที่สหรัฐฯ ระงับความช่วยเหลือตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวเมื่อวันอังคารว่า เขาคิดว่าจะยุบหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งกระจายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ไปทั่วโลก และขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะโกลาหลอย่างหนัก


ทั้งนี้ ค่ายผู้ลี้ภัยแม่หละ หรือ แม่ลา เป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบในเมียนมา ก่อตั้งขึ้นในปี 2527 อยู่ในอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ปัจจุบันให้ที่อยู่แก่ผู้ลี้ภัย 50,000 คน ซึ่งมีเพิ่มทุกสัปดาห์จากเมียนมา มีโรงพยาบาลที่ดำเนินการโดย IRC หนึ่งแห่ง และคลินิกสองแห่ง ที่ดูแลผู้คนจำนวนมาก โดยมีแพทย์ไม่กี่คน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ประมาณ 50 คน และอาสาสมัคร 100 คน


ขณะที่ หม่อง เล ผู้ป่วยอีกคนที่ย้ายมาจากค่ายผู้ลี้ภัยแม่ลา นอนอยู่บนเตียงโดยมีผ้าพันแผลพันศีรษะอยู่ด้านข้าง ชายวัย 45 ปีรายนี้ เขากล่าวว่า ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลท่าสองยาง เนื่องจากสถานพยาบาลในท้องถิ่นในค่ายปิดให้บริการ และว่า “เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา เราไม่มีเงินซื้อยา” “เราทุกคนจะต้องตายถ้าไม่มียารักษาในค่าย”


ขณะที่ ทางด้าน นายกันต์พงษ์ พิพัฒมนตรีกุล นายอำเภอท่าสองยาง กล่าวว่า โรงพยาบาลของรัฐบาลไทยอาจไม่สามารถรับมือกับภาระเพิ่มเติม ในการจัดการด้านการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ลี้ภัยในระยะยาวได้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/WzgZPFvRjoE