ต่างประเทศ
‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ชนะเลือกตั้ง ปธน.สมัย 2 ด้าน 'กมลา แฮร์ริส' โทรศัพท์ยอมรับความพ่ายแพ้
โดย nattachat_c
12 ชั่วโมงที่แล้ว
140 views
อดีตประธานาธิบดี 'โดนัลด์ ทรัมป์' จาก 'พรรครีพับลิกัน' เอาชนะรองประธานาธิบดี 'กมลา แฮร์ริส' คู่แข่งจาก 'พรรคเดโมแครต' ก้าวขึ้นเป็นผู้นำอเมริกาสมัยที่ 2 ในการเลือกตั้งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
โดย ทรัมป์ มีเสียงคณะผู้เลือกตั้งอย่างน้อย 292 เสียง จาก 538 เสียง เพียงพอที่จะทำให้เขากลายเป็นผู้นำอเมริกันคนแรกนับตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1890 ที่ดำรงตำแหน่งสมัย 2 แบบเว้นช่วงการบริหารประเทศ และเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47
ทรัมป์ ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ ประกาศชัยชนะ และกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนที่รัฐฟลอริดาว่า “นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน และจริง ๆ แล้ว นี่คือสิ่งที่ผมเชื่อว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดตลอดกาล” พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะ 'แก้ปัญหาเรื่องชายแดน' และ 'แก้ปัญหาทุกอย่างในประเทศ' และว่าตนจะทำหน้าที่เพื่อมอบ 'อเมริกาที่แข็งแกร่ง ปลอดภัย และรุ่งเรือง'
ทรัมป์ สามารถคว้าชัยในรัฐสวิงสเตทหลายรัฐ เช่นที่ รัฐเพนซิลเวเนีย รัฐจอร์เจีย รัฐนอร์ธแคโรไลนา และรัฐวิสคอนซิน และทำให้เขาชิงความได้เปรียบในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ และ ชัยชนะของพรรครีพับลิกันยังยิงยาวไปต่อในสภาสหรัฐฯ ที่กุมเสียงข้างมากในวุฒิสภาอย่างน้อย 51 จาก 100 ที่นั่ง ขณะที่จำนวนเก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันพรรครีพับลิกันกุมเสียงข้างมากอยู่นั้น ยังไม่ได้ประกาศผล
ทั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในช่วงปี 2017-2021 ก่อนจะพ่ายแพ้ให้กับประธานาธิบดี 'โจ ไบเดน' ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ที่ทรัมป์ยังยืนยันว่า ตนเป็นฝ่ายชนะ การปฏิเสธผลการเลือกตั้งดังกล่าว ได้จุดชนวนให้กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อ 6 มกราคม 2021 เพื่อหวังขัดขวางการรับรองผลการเลือกตั้งในปีดังกล่าว อีกทั้ง ทรัมป์ และพันธมิตรของเขา ยังเดินหน้าต่อสู้ทางกฎหมายมากมาย หลังการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน
หลังจากทรัมป์ก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในสมัยแรก เขาเผชิญกับคดีความมากมาย ตั้งแต่การถูกตัดสินว่า มีความผิด 34 กระทง จากการปลอมแปลงข้อมูลทางการเงินช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 เพื่อปกปิดค่าใช้จ่าย 130,000 ดอลลาร์ ที่เขาใช้ในการปิดปาก สตอร์มีย์ แดเนียลส์ อดีตดาราหนังแนววาบหวิว เรื่องความสัมพันธ์ลับของทั้งสองคนเมื่อปี 2006 และคดีความดังกล่าวมีกำหนดการตัดสินในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้
โดยคดีนี้เป็น 1 ใน 4 คดีอาญา ที่ทรัมป์กำลังเผชิญอยู่ ส่วนอีก 3 คดี ประกอบด้วย 2 คดีที่เกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่า เขาพยายามพลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 ที่เขาพ่ายเเพ้ ส่วนคดีสุดท้ายเป็นเรื่องการจัดเก็บเอกสารความลับด้านความมั่นคงของประเทศ หลังหมดวาระผู้นำสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม คดีเหลานี้ถูกฟ้องร้องที่ศาลนิวยอร์ก ขณะที่ทรัมป์อยู่ที่รัฐฟลอริดา ทำให้เขาสามารถลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีได้
ทั้งนี้ ทรัมป์ มีกำหนดการขึ้นปฏิญาณตนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ในวันที่ 20 มกราคมนี้
ในแง่ของประเด็นต่างประเทศ นโยบายสำคัญอยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทั้งในด้านการค้า ไต้หวัน และท่าทีของจีนในทะเลจีนใต้ โดยที่ผ่านมา คณะทำงานของทรัมป์ ได้ออกมาตรการกำแพงภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีน ท่ามกลางสงครามการค้ากับรัฐบาลปักกิ่ง ที่เกิดขึ้นในยุคที่ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งผู้นำสมัยแรก
ด้าน กมลา แฮร์ริส ได้โทรศัพท์ไปหาโดนัลด์ ทรัมป์ แล้ว เพื่อยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากการแข่งขันสิ้นสุดลง กระนั้น แฮร์ริส ก็ยังออกคำเตือนถึงประธานาธิบดีคนใหม่ โดยบรรยายให้เขาฟังขณะที่แสดงความยินดี โดยผู้ช่วยอาวุโสของแฮร์ริสกล่าวว่า “เธอได้พูดคุยถึงความสำคัญของการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ และการเป็นประธานาธิบดีของชาวอเมริกันทุกคน”
ขณะที่ ทีมงานของทรัมป์ได้ยืนยันการโทรศัพท์ไปหาแฮร์ริส และกล่าวว่าประธานาธิบดีคนใหม่ได้ยอมรับใน 'ความเป็นมืออาชีพ' และ 'ความพากเพียร' ของแฮร์ริส