ต่างประเทศ

'ยูเอ็น' เผย ‘ธนาคารไทย’ แทนที่สิงคโปร์ เป็นผู้ให้บริการการเงินหลักรัฐบาลทหารเมียนมา

โดย nattachat_c

27 มิ.ย. 2567

644 views

องค์การสหประชาชาติ (UN) เผยแพร่รายงาน ชื่อว่า 'การธนาคารบนความตาย' (Banking on the Death Trade: How Banks and Governments Enable the military Junta in Myanmar) โดยได้ตรวจสอบบทบาทของประเทศสมาชิกอาเซียน ในด้านการจัดหาอาวุธ และเสบียงทางทหารให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา รวมทั้งสรุปสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา และวิธีการที่รัฐบาลทหารใช้ในการจัดซื้อจัดหาอาวุธแทนที่แหล่งก่อน ๆ ที่ถูกปิดกั้นภาย ใต้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ โดยสหรัฐฯ สหภาพยุโรป (EU) และนานาประเทศ

รายงาน พบว่า บริษัทต่าง ๆ ในไทย รับหน้าที่ให้บริการด้านการเงิน และการจัดหาอาวุธแทนที่ธุรกิจในสิงคโปร์ ที่เคยค้าขายกับ 'สภาบริหารแห่งรัฐเมียนมา' (SAC) ซึ่งเป็นชื่อทางการของรัฐบาลทหารเมียนมา โดย สภาบริหารแห่งรัฐ ยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับเครือข่ายวงกว้างของภาคการธนาคารระหว่างประเทศ เพื่อรักษาไว้ซึ่งเสบียงอาวุธของตน และทำให้ตนยังคงยืนหยัดในการปกครองประเทศต่อไป

โธมัส แอนดรูวส์ ผู้รายงานพิเศษขององค์การสหประชาชาติด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมา กล่าวว่า ในปี 2023 บริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยดำเนินการจัดส่งอาวุธ และวัสดุต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกัน เป็นมูลค่ากว่า 120 ล้านดอลลาร์ ไปให้รัฐบาลทหารเมียนมา โดยตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าจากปี 2022 โดยสิ่งที่มีการจัดส่งผ่านประเทศไทยไปในปีที่แล้ว มีชิ้นส่วนของเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-17 และ Mi-35 ที่กองทัพเมียนมาเคยซื้อจากสิงคโปร์อยู่ด้วย

การตรวจสอบในรายงานชิ้นนี้ ยังพบว่า ธนาคารไทยแห่งหนึ่ง รับผิดชอบถึงราว 80% ของธุรกรรมที่เกี่ยวกับกองทัพเมียนมา โดยตัวเลขการโอนเงินผ่านธนาคารแห่งนี้ พุ่งขึ้นจาก 5 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 เป็นกว่า 100 ล้านดอลลาร์ในปี 2023

และธนาคารไทยอีกแห่งหนึ่ง ได้ยืนยันกับผู้รายงานพิเศษของยูเอ็นว่า ได้ยุติความสัมพันธ์ด้านบริการทางธนาคารกับ ธนาคาร เมียนมาร์ ฟอเรน เทรด แบงก์ (Myanmar Foreign Trade Bank) ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐบาล หลังสถาบันการเงินเมียนมานี้ ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ลงโทษ เมื่อปี 2023 โดยปริมาณธุรกรรมการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพเมียนมาผ่านธนาคารไทยแห่งนี้ ได้ลดลงจากระดับ 35 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 มาเหลือเพียง 5 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 ด้วย

รายงานของยูเอ็นนี้ ให้ความเห็นว่า “ถ้ารัฐบาลของไทยจะดำเนินการที่ตอบรับข้อมูลที่ว่านี้ ดังเช่นที่รัฐบาลของสิงคโปร์ทำไปเมื่อปีก่อน ความสามารถของรัฐบาลทหารพม่า ในการโจมตีประชาชนชาวเมียนมา ก็จะลดความรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญ”

-------------

คุณอาจสนใจ