ปาปัวนิวกินีสะพานขาด ซ้ำเติมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเหยื่อดินถล่ม คาดสถานการณ์ยังเลวร้ายได้อีก

เกิดเหตุสะพานถล่มบนเส้นทางหลัก ที่เจ้าหน้าที่ใช้เดินทางเข้าช่วยเหลือหมู่บ้าน ที่เกิดเหตุดินถล่ม ในปาปัวนิวกินี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้การช่วยเหลือยากขึ้นไปอีก หลังจากที่ทางการระบุว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้ น่าจะพุ่งขึ้นไปแตะหลัก 2,000 คน

รายงาน ระบุว่า เนื่องจากสภาพดินที่ไม่มั่นคง และเกิดการยุบตัวได้ตลอดเวลา ทำให้สะพานดังกล่าว เกิดถล่มลงมาตัดขาดเส้นทางเข้าสู่พื้นที่ประสบภัย ทำให้รัฐบาลปาปัวนิวกินีสั่งประชาชนอพยพนับพันคน ออกจากแนวเส้นทางดังกล่าวแล้ว เนื่องจากยังมีโอกาสที่จะเกิดดินถล่มซ้ำลงมาอีก

ทีมเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในปาปัวนิวกินี ได้เดินทางไปยังภูมิภาคเอนกา ทางตอนเหนือของประเทศ ตั้งแต่วันศุกร์ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะกล่าวว่า โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตมีน้อยก็ตาม ขณะที่ชาวบ้านต้องใช้พลั่ว และมือเปล่า เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต

แซนดิส ซากา ประธานคณะกรรมการภัยพิบัติจังหวัดเอนกา กล่าวว่า พื้นที่ดินถล่มมีความไม่มั่นคงสูง มักจะได้ยินเสียงคล้ายระเบิดขนาดใหญ่บริเวณภูเขาอยู่เป็นประจำแต่ยังคงมีหิน และเศษซากหล่นลงมา สถานการณ์ดินถล่มยังคงไม่นิ่ง และคาดว่าอาจถล่มลงมาอีกมาก  

โดยทางการประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วเขตภัยพิบัติ และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมีประชากรรวมกันระหว่าง 4,500 - 8,000 คน แม้ว่าจะยังไม่ได้รับคำสั่งให้อพยพทั้งหมดก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ตั้งจุดตรวจ และกำลังช่วยเคลื่อนย้ายประชาชนไปยังศูนย์อพยพ

รัฐบาล ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 2,000 ศพ จากดินถล่ม ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์เบื้องต้นของ องค์การสหประชาชาติ (UN) ที่คาดว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 670 ศพ แต่จนถึงขณะนี้ พบศพเพียง 5 ศพเท่านั้น