ฟิลิปปินส์เรียกทูตจีนเข้าพบ หลังเรือยามฝั่งจีนฉีดน้ำใส่เรือฟิลิปปินส์ ในทะเลจีนใต้

ฟิลิปปินส์ได้เรียกเอกอัครราชทูตจีนเข้าพบ เมื่อวานนี้ (7 ส.ค. 66) เพื่อประท้วงที่เรือยามฝั่งของจีน ได้แล่นเรือขวางและยิงปืนใหญ่น้ำใส่เรือของฟิลิปปินส์ ในทะเลจีนใต้ ทั้งที่ฟิลิปปินส์และจีนกำลังมีประเด็นพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์บริเวณสันดอนทรายของหมู่เกาะสแปรตลีย์  

มีภาพเหตุการณ์ ที่เห็นอย่างชัดเจนว่า เรือยามฝั่งของจีนฉีดน้ำเข้าใส่เรือของฟิลิปปินส์ ขณะที่เรือยามฝั่งของฟิลิปปินส์กำลังคุ้มกันเรือที่กำลังนำทหารชุดใหม่ อาหาร เชื้อเพลิง และเสบียงอื่นๆ ไปให้กับเจ้าหน้าที่กองทัพฟิลิปปินส์ ที่ประจำการอยู่บนเรือรบบีอาร์พี เซียร์รา มาเดร ที่ฟิลิปปินส์จงใจแล่นไปเกยตื้นที่สันดอน ในหมู่เกาะสแปรตลีในทะเลจีนใต้มาตั้งแต่ปี 1999 เพื่ออ้างสิทธิในแนวปะการังในบริเวณดังกล่าว

กองทัพและหน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ ได้กล่าวหาหน่วยยามฝั่งของจีนว่า ละเมิดกฎหมายนานาชาติจากการกระทำดังกล่าว จนทำให้เรือของฟิลิปปินส์ลำหนึ่งไม่สามารถแล่นไปถึงสันดอนที่เป็นจุดหมายปลายทางได้สำเร็จ

ขณะที่จีนออกมาตอบโต้ว่า พวกเขาได้ดำเนินการตามมาตรการที่จำเป็นต่อเรือของฟิลิปปินส์ ที่รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำของจีนอย่างผิดกฎหมาย

ทางด้าน ประธานาธิบดี มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเราได้เรียกตัว หวง ซีเหลียน เอกอัครราชทูตจี นประจำประเทศฟิลิปปินส์ เข้าพบในวันนี้ และได้มอบเอกสารบันทึกทางวาจา ตลอดจนภาพถ่ายวิดีโอเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกำลังรอการตอบกลับจากจีน”

อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกัน จีนได้ออกมาบอกให้ฟิลิปปินส์ลากเรือรบดังกล่าวออกจากสันดอนทรายดังกล่าว โดยหน่วยยามฝั่งของจีนออกมาระบุในถ้อยแถลงว่า ก่อนหน้านี้ จีนได้ขอให้ฟิลิปปินส์ไม่ส่งเรือไปยังสันดอนดังกล่าว และอย่าส่งอุปกรณ์ก่อสร้างที่ใช้สำหรับการซ่อมแซมขนาดใหญ่รวมถึงการเพิ่มกำลังพล

------------