'เมต้า' ทุบสถิติ โดนยุโรปปรับอ่วม 4.5 หมื่นล้านบาท ฐานถ่ายโอนข้อมูลผู้ใช้ให้สหรัฐฯ

'เมต้า' (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ถูกปรับด้วยจำนวนเงินสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1.2 พันล้านยูโร หรือเกือบ 4.5 หมื่นล้านบาท ด้วยข้อหาถ่ายโอนข้อมูลผู้ใช้ในสหภาพยุโรป (EU) ไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการละเมิดคำตัดสินของศาลครั้งก่อนหน้า

คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไอร์แลนด์ (DPC) ซึ่งทำหน้าที่ในฐานะอียู กล่าวว่า คณะกรรมาธิการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของยุโรป ได้สั่งให้หน่วยงานเก็บค่าปรับทางปกครองจำนวนสูงถึง 1.2 พันล้านยูโร

ดีพีซี ได้ติดตามสอบสวน เมต้า ซึ่งมีสำนักงานใน ไอร์แลนด์ ในประเด็นการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลจากอียูไปยังสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ปี 2020 พบว่า บริษัทดังกล่าวที่มีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคยุโรปที่กรุงดับลิน ล้มเหลวในการจัดการกับความเสี่ยงต่อสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล ที่มีการระบุไว้ในคำตัดสินก่อนหน้านี้ โดยศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป  

ทางด้าน เมต้า ได้ออกมาตอบโต้ว่ารู้สึกผิดหวังต่อการถูกหมายหัว และว่า คำตัดสินดังกล่าวมีข้อบกพร่อง ไม่ยุติธรรม และเป็นแบบอย่างทางกฎหมายที่อันตรายต่อบริษัทอื่นๆ จำนวนมาก โดยทางบริษัทจะทำการอุทธรณ์ ทั้งเนื้อหาของคำตัดสินและคำสั่งต่างๆ ซึ่งรวมถึงค่าปรับ และจะขอดำเนินการในชั้นศาล เพื่อหยุดกำหนดเส้นตายการปฏิบัติตามคำสั่งเป็นการชั่วคราว

ก่อนหน้านี้ หน่วยงานกำกับดูแลของอียูเคยลงโทษเมต้ามาแล้ว ด้วยค่าปรับจำนวนหลายร้อยล้านยูโร จากการละเมิดข้อมูลส่วนตัว โดยแอปพลิเคชั่นอินสตาแกรม  / วอตส์แอพพ์ และ เฟซบุ๊ก ที่บริษัทรายนี้เป็นเจ้าของ ขณะที่คำตัดสินครั้งล่าสุด นับเป็นโทษปรับครั้งที่สาม ที่อียูมีต่อเมต้าในปีนี้ และครั้งที่สี่ในรอบหกเดือน