ต่างประเทศ

สื่อนอกชี้ฝายค้านไทยนำโด่ง เปลี่ยนการเมืองไทยในรอบ 20 ปี – ใครเป็นรัฐบาลก็ยังแก้ปัญหากับดักรายได้ปานกลางไม่ได้

โดย nattachat_c

15 พ.ค. 2566

4.1K views

บรรดาสื่อต่างชาติรายงานตามติดการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่พาดหัวถึงการนำโด่งของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ไม่ว่าเป็นจะพรรคก้าวไกล หรือพรรคเพื่อไทย  


'เดอะ การ์เดียน' สื่อชื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองไทย ที่มีมานานถึง 20 ปี  โดยการเมืองไทยถูกครอบงำด้วยความขัดแย้งระหว่างครอบครัวของ นายทักษิณ ชินวัตร และ สถาบันกองทัพ ความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย ทำให้เกิดการเดินขบวนประท้วงมานับครั้งไม่ถ้วน และทำให้เกิดการรัฐประหารถึง 2 ครั้ง


แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากผลการเลือกตั้งล่าสุดนั้น การเมืองไทยได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เป็นการส่งสัญญาณถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ หลังจากที่พรรคก้าวไกลได้คว้าเก้าอี้ได้มากที่สุดที่ 151 และเพื่อไทยได้ 141 ที่นั่ง


การ์เดียน ได้รายงานอ้าง 'เคน แมทธิส โลหะธีปนนท์' นักวิจารณ์การเมือง ที่ได้โพสต์ไว้ในทวิตเตอร์ด้วยว่า "ยุคของเพื่อไทยที่ครอบงำการเมืองไทยได้สิ้นสุดลงแล้ว" หลังจากที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถแลนด์สไลด์ได้ในครั้งนี้

-------------

'นิคเคอิ เอเชีย' สื่อชื่อดังของญี่ปุ่น รายงานพาดหัวว่า

"พรรคก้าวไกล นำโด่งเลือกตั้งไทย"  แต่กระนั้น นิคเคอิ เอเชีย ระบุว่า ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะต้องจับมือพันธมิตรให้ได้อย่างน้อย 376 เสียง เพื่อคว่ำเสียง ส.ว. 250 เสียง ที่มีสิทธิในการโหวตนายกรัฐมนตรีในสถา ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยหวังว่าจะได้แลนด์สไสด์ถึง 310 เสียง แต่ขณะนี้ได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งจากที่หวังไว้
-------------
 'เอเชีย ไทม์ส' ได้รายงานว่า ไม่ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย หรือพรรคไหนจะได้จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็จะยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยได้เท่าไหร่นัก โดยเฉพาะปัญหา 'กับดักรายได้ปานกลาง' ของไทย


รายงานระบุว่า จากปํญหาทางการเมืองตลอด 9 ปี ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นยุคที่ 'หายไป' (Lost Era) ของเศรษฐกิจไทย และภาวะดังกล่าวยังจะตามหลอกหลอนประเทศไทยต่อไป ไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้งครั้งนี้ก็ตาม เนื่องจากปัญหาความยุ่งเหยิงทางการเมืองไทยที่กินเวลามานาน 17 ปี นั้น ได้ทำให้ประเทศไทยตกสู่กับดักรายได้ปานกลางที่ยากจะแก้ไขได้แล้ว

-------------

วินเซนต์ ไช่ นักเศรษศาสตร์จากสถาบันวิจัย 'เกฟคัล' (Gavekal Research) ให้ความเห็นว่า


ประเทศไทยเป็นประเทศเศรษฐกิจรายได้ปานกลาง ที่กำลังถูกแซงด้วยคู่แข่งที่มีรายได้ต่ำที่กำลังมาแรงขึ้นมาในภาคการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนาม ซึ่งประเทศไทยได้ประสบกับภาวะล้าหลังของการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งส่วนแบ่งการส่งออก และการลงทุน ก็ตกลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการท่องเที่ยวจะเติบโตขึ้นก็ตาม


"หลุมดำที่น่าวิตกกังวลที่สุดก็คือ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และคู่แข่งชาติอื่น ได้มีการเปลี่ยนแปลงด้านนวัตกรรมอย่างล้ำหน้าไปมาก อย่างเช่น อินโดนีเซีย ได้มีการสร้างสตาร์ทอัพระดับ 'ยูนิคอร์น' ไว้มากมาก" ไช่กล่าว

(ยูนิคอร์น คือธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงมากกว่า  1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)


ขณะที่เวียดนามนั้น ก็เป็นผู้ชนะในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อย่างแท้จริง โดยเวียดนามเป็นแหล่งลงทุนของโรงงาน การจ้างงาน และการลงทุนระยาวยาวของธุรกิจต่างชาติที่หนีออกมาจากจีนเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่ไทย  
-------------

คุณอาจสนใจ