'สวิส' รุดเข้าอุ้มแบงก์ใหญ่ 'เครดิต สวิส' หลังหุ้นร่วงหนัก 30% ผู้ถือหุ้นใหญ่ปฏิเสธเพิ่มทุน

เคณะกรรมการกำกับดูแลภาพธนาคาร ออกแถลงการณ์ด่วนร่วมกับธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์ประกาศจะเพิ่มทุนเข้าสู่ธนาคาร "เครดิตสวิส" ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสวิสเซอร์แลนด์แล้ว หลังจากที่หุ้นของธนาคารแห่งนี้ ร่วงลงมากถึง 30% หลังจากที่ธนาคารมีปัญหาสภาพคล่องอย่างหนัก และผู้ถือหุ้นใหญ่จากซาอุดิอาราเบียปฏิเสธเพิ่มทุน



โดยแถลงการณ์ระบุว่า "เครดิต สวิส” เข้าเกณฑ์ที่จะต้องได้รับการสนับสนุน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องไปยังธนาคารอื่นๆ พร้อมกับยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าปัญหาของธนาคารเครดิตสวิสนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับวิกฤตธนคารที่เกิดขึ้นในสหรัฐ



ทั้งนี้ เครดิตสวิส อยู่ในระหว่างการปรับโครสร้างของธนาคารซึ่งทำให้ธนาคารประสบกับปัญหาสภาพคล่อง หลังจากที่ธนาคารต้องประสบกับเรื่องอื้อฉาวมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี  ไม่ว่าจะเป็นการทำผิดกฎระเบียบ การฟอกเงิน และเป็นแหล่งเลี่ยงภาษีด้วย



โดยราคาหุ้นของธนาคารเครดิต ดิ่งลงอย่างหนักเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานะการเงินของทางธนาคาร ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นยุโรป ก่อนถูกสั่งระงับการซื้อขาย โดยการเทขายมีขึ้นหลังจากที่ “ธนาคารซาอุดิ เนชั่นแนล แบงก์” (Saudi National Bank) หรือ  “เอสเอ็นบี” ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเครดิต สวิส ประกาศว่า เอสเอ็นบี  ไม่สามารถเพิ่มความช่วยเหลือทางการเงินต่อเครดิต สวิส เนื่องจากจะทำให้ เอสเอ็นบี  ถือหุ้นในเครดิต สวิสมากกว่า 10% ซึ่งจะเป็นการทำผิดกฎระเบียบธนาคาร



ก่อนหน้านี้ เครดิต สวิสเปิดเผยว่า ธนาคารขาดทุนสุทธิ 1.4 พันล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4/2565 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.32 พันล้านฟรังก์สวิส ส่งผลให้ยอดขาดทุนตลอดทั้งปีอยู่ที่ 7.3 พันล้านฟรังก์สวิส



นอกจากนี้ ลูกค้ายังแห่ถอนเงินฝากมากกว่า 1.10 แสนล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4/2565 ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับข่าวอื้อฉาวของธนาคารในการทำผิดกฎระเบียบ และความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดีด้วย



โดยเมื่อวานนี้  ธนาคารในยุโรปหลายแห่งก็เผชิญกับการขายหุ้นทิ้งเช่นกันเช่น ด้านตลาดหลักทรัพย์อิตาลีต้องสั่งระงับซื้อขายหุ้นธนาคารหลายตัว เช่น ยูนิเครดิต, ฟิเนโกแบงก์ และมอนเต เด ปาสกี ขณะที่ฝรั่งเศสก็มีการเทขายเช่น หุ้นธนาคาร "โซซิเอเต เจเนราล” จากฝรั่งเศส ส่วนที่สเปนหุ้น ธนาคาร “บังโก ซาบาเดย์” ก็ร่วงลงอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับหุ้นของธนาคาร คอมเมิร์ซแบงก์ จากเยอรมนี



การเทขายหุ้นอย่างหนักในยุโรปส่งผลให้ดัชนีราคาหุ้นหลักของยุโรปร่วงอย่างรุนแรงเมื่อคืนที่ผ่านมาด้วย อย่างเช่น ดัชนีแดกซ์ ของเยอมนรีร่วงลงไปถึง  497.57 จุด หรือ -3.27% มาอยู่ที่ 14,735.26 จุด



ดัชนี ซีเอซี-40 ของฝรั่งเศสปรับลด 255-86 หรือ -3.58 มาอยู่ที่ 6,885.71 จุด ส่วนฟุตซี 100 ของอังกฤษก็ลดลงไป 292.66 จุด หรือ -3.83% ปิดที่ 7,344.45 จุด



ส่วนที่สหรัฐ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับลดลงไป 280.83 จุด หรือ -0.87% ปิดที่ 31,874.57 จุด เอสแอนด์พี-500 ปรับลด 27.36 จุด หรือ -0.7% ปิดที่ 3,891.93 จุด ส่วน แนสแดก ปรับขึ้นเล็กน้อย 5.9 จุด หรือ +0.05% ปิดที่ 11,434.05 จุด