คนร้ายบุกกราดยิง มหาวิทยาลัยมิชิแกน ก่อนปลิดชีพตัวเอง ดับรวม 3 ศพ

เกิดเหตุความรุนแรงจากอาวุธปืนใน สหรัฐอเมริกา อีกครั้ง หลังจากชายคนร้ายบุกเข้าไปกราดยิงภายใน มหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน ทางตอนเหนือของสหรัฐ เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 13 ก.พ.ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนรัวยิงสังหารเหยื่ออย่างน้อย 3 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 5 คน

ตำรวจระบุว่า พบคนร้ายเป็นศพในเวลาต่อมา สันนิษฐานว่าเขาใช้ปืนกระบอกเดียวกันปลิดชีพตัวเอง และเบื้องต้นตำรวจยังเร่งสอบสวนหาแรงจูงใจที่คนร้ายก่อเหตุนองเลือด

ภาพนี้เป็นภาพของมือปืนวัย 43 ปี ขณะที่กำลังบุกเข้ามาในอาคารของมหาวิทยาลัยก่อนที่จะก่อเหตุสะเทือนขวัญขึ้น

เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 20.20 น. หลังมีเสียงปืนดังสนั่นหลายนัดที่โถง “เบอร์คีย์ฮอลล์” ทางเหนือของมหาวิทยาลัย และสังหารเหยื่อ 2 ราย จากนั้นมุ่งหน้าไปยังสมาคมนักศึกษาและก่อเหตุกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ขณะที่นักศึกษาในพื้นที่ดังกล่าวต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด

ต่อมาเมื่อเวลา 21.16 น. ตำรวจได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินและ 10 นาทีให้หลังก็นำกำลังรุดถึงจุดเกิดเหตุ ระหว่างนั้นหน่วยกู้ภัยเร่งส่งเหยื่อไปโรงพยาบาล ขณะที่ตำรวจไล่าล่าตามจับคนร้ายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยซึ่งกว้างกว่า 12,600 ไร่

กระทั่งเมื่อเวลา 24.20 น. ตำรวจยกเลิกประกาศหลบภัยในอาคาร และแถลงยืนยันว่าคนร้ายเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นทราบว่าเป็นชายผิวดำ วัย 43 ปี และไม่มีความเชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัยรัฐมิชิแกน    

 ภายหลังเหตุการณ์ ทางด้าน นาย เกรตเชน วิธเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ได้แถลงข่าวต่อเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้น โดยเขาถึงกับหยุดร้องไห้ในระหว่างการแถลง และบอกว่าเจ้าตัวได้หารือกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ต่อเหตุการณ์นี้แล้ว  ขณะที่ ไบทางดานไบเดนได้แถลงที่กรุงวอชิงตัน เรียกร้องให้สังคมหยุดความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืน และว่าเหตุกราดยิงครั้งนี้นับเป็นฝันร้านของผู้ปกครองทุกคน