จีนลั่นขอสงวนสิทธิ ตอบโต้สหรัฐฯ หลังบอลลูนถูกยิงตก ชี้ชัดเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ

จากกรณีสหรัฐฯได้ยิงบอลลูนของจีนตกที่ชายฝั่งสหรัฐฯ โดยระบุว่าเป็น 'บอลลูนสอดแนม' ขณะที่จีนบอกว่า เป็นบอลลูนตรวจอากาศทางพลเรือน ไม่ใช่เพื่อการทหาร จนทำให้ แอนโธนีบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเลื่อนการเยือนจีนอย่างไม่มีกำหนด

ล่าสุด ตัน เก้อเฟย โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน ได้ออกโรงประณาม ระบุว่า สหรัฐฯได้ใช้กำลังในการทำลายบอลลูนไร้คนขับของจีน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทำที่ 'เกินกว่าเหตุ' จีนขอประท้วงการกระทำเช่นนี้ของสหรัฐฯ และ จีนขอสงวนสิทธิในการจัดการปัญหาแบบเดียวกับที่สหรัฐฯทำเช่นกัน

ท่าทีของกระทรวงกลาโหมจีนครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านั้น ทางด้านกระทรวงต่างประเทศจีนได้แถลงเช่นกันว่า จีนได้ขอให้อเมริกาจัดการเรื่องนี้อย่างสุขุม อดกลั้น และเป็นมืออาชีพ ทว่า อเมริกากลับดึงดันใช้กำลัง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ และละเมิดแนวทางปฏิบัติสากล และจีนสงวนสิทธิ์ตอบโต้ตามที่จำเป็น

กระทรวงต่างประเทศจีน ระบุว่า "จีนได้แจ้งไปยังสหรัฐฯหลายครั้งแล้ว หลังจากที่ตรวจสอบแล้วพบว่าบอลลูนดังกล่าวเป็นบอลลูนตรวจอากาศพลเรือน และได้ล้ำเข้าไปในสหรัฐฯด้วยเหตุสุดวิสัย และเป็นอุบัติเหตุ"

ทั้งนี้ บอลลูนลูกดังกล่าว ถูกยิงตกลงมายังน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติก ห่างจากชายฝั่งรัฐแคโรไลนาราว 6 ไมล์ทะเล โดยชิ้นส่วนบอลลูนกระจัดกระจายในอาณาบริเวณกว่า 11 กิโลเมตร  

ขณะที่ เดอะการ์เดียน สื่อชื่อดังของอังกฤษรายงานว่า จริงๆ แล้ว บอลลูนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ ซึ่งถ้าเป็นเพื่อการสอดแนมแล้ว เพราะเหตุใดจีนถึงส่งบอลลูนไป ทั้งๆที่สามารถสอดแนมด้วยระบบดาวเทียมซึ่งมีความแม่นยำสูงอยู่แล้วก็ได้

โดย เดอะการ์เดียน ชี้ว่า นั่นเป็นเพราะบอลลูนมีราคาและค่าใช้จ่ายถูกกว่า และสามารถลอยเข้าไปใกล้เป้าหมายได้มากกว่า แต่กระนั้นจีนก็จะไม่รู้เลยหรือว่า บอลลูนที่ลอยเข้าไปใกล้นั้นได้เข้าไปในระยะทำการของขีปนาวุธของสหรัฐฯที่ติดตั้งอยู่ตามชายฝั่ง