จีนประชากรลดครั้งแรกในรอบ 60 ปี หวั่นกระทบทั้งโลก - อัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงสุดตั้งแต่ปี 1974

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน แถลงเมื่อวานนี้ว่า จีนมีจำนวนประชากรทั้งหมดอยู่ที่ 1,411.75 ล้านคน ในช่วงปลายปี 2022 ลดลงราวๆ 850,000 คน จากช่วง 1 ปีก่อนหน้า ถือว่าเป็นการปรับตัวลดลงของประชากรครั้งแรกในรอบ 60 ปี

นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่เตือนถึงแนวโน้มการลดลงของประชากรที่อาจเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งแน่นอนว่า จะส่งผลกระทบทั้งต่อเศรษฐกิจของจีน และทั่วโลก

รอยเตอร์ส ระบุว่า การลดลงของประชากรจีน ซึ่งถือว่ามากที่สุดตั้งแต่ปี 1961 และในระยะยาว ผู้เชี่ยวชาญขององค์การสหประชาชาติ  คาดการณ์ว่า ประชากรจีนจะหดตัวลง 109 ล้านคนภายในปี 2050 หรือมากกว่าตัวเลขที่ประเมินไว้เมื่อปี 2019 กว่า 3 เท่าตัว

ปรากฏการณ์นี้ ทำให้นักประชากรศาสตร์ของจีน เตือนว่า ประเทศจีนกำลังเข้าสู่ความ 'ชรา' ก่อนที่จะ 'ร่ำรวย' ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวเนื่องจากรายได้ลดลง

รัฐบาลจะต้องแบกรับหนี้สินเพิ่ม เนื่องจากจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ และสวัสดิการสังคมที่พุ่งสูงขึ้น

ทั้งนี้ ในปี 2022 อัตราการเกิดในจีนปีที่แล้วอยู่ที่ 6.77 ต่อประชากร 1,000 คน ลดลงจากสถิติ 7.52 ในปี 2021 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเกิดที่ต่ำเป็นประวัติการณ์

ขณะที่อัตราการเสียชีวิตกลับทุบสถิติใหม่ นับตั้งแต่มีการปฏิวัติวัฒนธรรมในปี 1974 โดยอยู่ที่ 7.37 ต่อประชากร 1,000 คน เพิ่มขึ้นจากสถิติ 7.18 ในปี 2021

โดย สาเหตุหลักที่ทำให้ประชากรจีนลดลง มาจากการที่รัฐบาลใช้นโยบาย 'ลูกคนเดียว'  ในช่วงระหว่างปี 1980-2015 อีกทั้ง การส่งเสียบุตรให้เล่าเรียนมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ทำให้คนจีนส่วนใหญ่ปฏิเสธการมีลูกมากกว่า 1 คน หรือเลือกที่จะไม่มีบุตรเลย