ก.ยุติธรรมสหรัฐฯ จ่อยื่นศาล บังคับกูเกิลขาย Chrome ชี้ผูกขาดตลาดเสิร์ชเอนจิ้น

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เตรียมดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาล ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ย. 67) เพื่อขอให้ออกคำสั่งให้กูเกิล ซึ่งเป็นบริษัทลูกของอัลฟาเบท (Alphabet) ขายกิจการเบราว์เซอร์โครม (Chrome)

รายงานระบุว่า นอกจากคำสั่งดังกล่าว ทางกระทรวงยุติธรรมยังจะขอให้ผู้พิพากษา ซึ่งเคยตัดสินว่า กูเกิลผูกขาดตลาดเสิร์ชเอนจินแบบผิดกฎหมาย เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำการกำหนดมาตรการควบคุมปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนที่ชื่อว่า แอนดรอยด์ (Android) ด้วย

อย่างไรก็ดี จนถึงตอนนี้ ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น  แต่ตัวแทนของบริษัทกูเกิลออกมาบอกว่า การกระทำดังกล่าวของกระทรวงยุติธรรมนั้นรุนแรง และก้าวร้าว รวมถึงยังเกิดขอบเขตของกฎหมาย และจะส่งผลเสียต่อผู้บริโภค

ทั้งนี้ กูเกิลควบคุมพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต และการมองเห็นโฆษณาของผู้ใช้งาน  และนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ยิงโฆษณาหาพวกเขาโดยตรงผ่านเบราว์เซอร์โครม ที่ปกติใช้ในการค้นหาข้อมูล

นอกจากนี้ กูเกิลยังใช้โครมในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจโฆษณาของบริษัทด้วย ซึ่งคาดว่า เบราว์เซอร์โครม ของกูเกิล มีส่วนแบ่งทางตลาดทั่วโลกประมาณ 2 ใน 3 นั่นหมายความว่าโครมเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้ที่สำคัญของบริษัท

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ถือเป็นความพยายามที่ค่อนข้างแข็งกร้าวมากที่สุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ในยุคประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในการควบคุมการผูกขาดตลาดของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่

อย่างไรก็ตาม ความพยายามนี้ เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยของ ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แล้ว ดังนั้น การกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกหนึ่งสมัยของทรัมป์ น่าจะส่งผลต่อคดีนี้มากที่สุด

ทั้งนี้ ทางบริษัทกูเกิลยืนยันว่าจะดำเนินการยื่นอุทธรณ์อย่างแน่นอนหากผู้พิพากษามีคำตัดสินขั้นสุดท้าย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2568