ต่างประเทศ
'แฮร์ริส' เข้าโบสถ์ - 'ทรัมป์' ขายแมคโดนัลด์ ไม้เด็ดหาเสียงรัฐสมรภูมิ โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ
โดย paweena_c
21 ต.ค. 2567
37 views
ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันลุยหาเสียงในรัฐสมรภูมิ โดยรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสปราศรัยในโบสถ์ 2 แห่งที่รัฐจอร์เจีย ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์สวมบทเป็นพนักงานร้านแมคโดนัลด์ที่รัฐเพนซิลเวเนีย
อดีตประธานาธิบดีทรัมป์เดินทางไปที่ร้านแมคโดนัลด์แห่งหนึ่งในย่านชานเมืองฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเขาได้ทดลองทำงานเป็นคนทอดและเสิร์ฟเฟรนช์ฟรายส์ให้กับลูกค้าผ่านหน้าต่างไดร์ฟทรู โดยมีผู้สนับสนุนของเขาจำนวนหลายพันคนยืนเรียงรายอยู่บนถนนฝั่งตรงข้ามเพื่อดูและให้กำลังใจเขา
ทรัมป์ได้บอกกับเจ้าของร้านว่า เขากำลังหางานทำและอยากจะทำงานที่ร้านฟาสต์ฟู้ดแห่งนี้มาโดยตลอด ก่อนที่เขาจะถอดเสื้อสูทออก แล้วสวมผ้ากันเปื้อนและไปทอดเฟรนช์ฟรายส์ ทรัมป์ยังบอกอีกว่าเขาสนุกมากและสามารถทำแบบนี้ได้ทั้งวันเลย
นอกจากจะเป็นการหาเสียงแล้ว การสวมบทเป็นพนักงานร้านแมคโดนัลด์ของทรัมป์ยังมีจุดประสงค์เพื่อเสียดสีรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตด้วย เพราะแฮร์ริสเคยพูดว่าเธอเคยทำงานเป็นพนักงานร้านอาหารแห่งนี้ในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งทรัมป์โจมตีว่าแฮร์ริสพูดโกหก เธอไม่เคยทำงานที่นั่น แต่เขาก็ไม่มีหลักฐานออกมายืนยันคำกล่าวอ้างนี้ของตัวเอง ทรัมป์ได้พูดเหน็บแนมว่า ตอนนี้ เขาทำงานที่แมคโดนัลด์นานกว่าแฮร์ริสแล้ว 15 นาที
ทางทีมหาเสียงของแฮร์ริสได้ออกมาตอบโต้ว่าการกระทำของทรัมป์แสดงถึงความสิ้นหวัง และว่าสิ่งที่เขารู้เพียงอย่างเดียวคือการโกหก เขาไม่เคยเข้าใจว่าการทำงานในช่วงซัมเมอร์เป็นอย่างไร
ระหว่างทำงาน ทรัมป์ได้ยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่างและตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วย ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาจะเคารพผลการเลือกตั้งในเดือนหน้า หากการเลือกตั้งครั้งนี้ยุติธรรม และยังพูดติดตลกหลังนักข่าวคนหนึ่งถามว่า มีอะไรฝากถึงแฮร์ริสในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 60 ปีของเธอเมื่อวานนี้หรือไม่? ทรัมป์ก็ได้พูดอวยพร และบอกว่าอาจจะซื้อดอกไม้กับเฟรนช์ฟรายให้กับเธอ
หลังเสร็จภารกิจที่ร้านแมคโดนัลด์ ทรัมป์ได้เดินทางไปขึ้นเวทีหาเสียงต่อที่เมืองแลนแคสเตอร์ และปราศรัยเน้นไปที่ประเด็นด้านเศรษฐกิจและผู้อพยพ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทีมหาเสียงของทรัมป์เชื่อว่าทำให้เขาได้รับความสนใจจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร
ขณะเดียวกัน ทางด้านรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เมื่อวานนี้ได้เดินทางไปปราศรัยที่โบสถ์ 2 แห่งในรัฐจอร์เจีย แฮร์ริสได้เข้าร่วมการประกอบพิธีทางศาสนาที่โบสถ์ New Birth Missionary Baptist ในเมืองสโตนเครสต์ ซึ่งมีผู้หญิงหลายคนเข้าร่วมพร้อมกับสวมใส่ชุดสีชมพูเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง
แฮร์ริสยังได้เล่าถึงประสบการณ์ในวัยเด็กของเธอที่เติบโตมากับคำสอนของคริสตจักรคนผิวดำและร้องเพลงในคณะนักร้องประสานเสียงของโบสถ์ และว่าตอนนี้ มีบางสิ่งบางอย่างกำลังพยายามสร้างความแตกแยก แพร่กระจายความเกลียดชัง ปลูกฝังความกลัว และสร้างความโกลาหล แต่แฮร์ริสไม่ได้เอ่ยถึงชื่อของคู่แข่งของเธอออกมา
ต่อมา แฮร์ริสได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ MSNBC และตอบคำถามของพิธีกรเกี่ยวกับประเด็นที่ทรัมป์เรียกเธอด้วยคำหยาบคายในการชุมนุมหาเสียงที่เมืองลาโทรบ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่าคำพูดของทรัมป์กำลังทำให้ตำแหน่งประธานาธิบดีเสื่อมเสีย และเขาไม่ควรได้สิทธิ์ที่จะเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง
จนถึงตอนนี้ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้ง 2 คนยังคงมีคะแนนความนิยมที่สูสีกันมาก โดยโพลล์สำรวจความนิยมล่าสุดจากเว็บไซต์ Project.fivethirtyeight.com ระบุว่าแฮร์ริสมีคะแนนนำทรัมป์เพียงแค่ประมาณ 2% เท่านั้น (48% ต่อ 46%)
และถ้าหากไปดูกันเฉพาะในรัฐสมรภูมิ 7 รัฐจะพบว่าแฮร์ริสมีคะแนนความนิยมนำทรัมป์ใน 3 รัฐ คือ มิชิแกน, วิสคอนซิน, และเนวาดา ส่วนทรัมป์มีคะแนนนำแฮร์ริสใน 4 รัฐ คือ เพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา, จอร์เจีย, และแอริโซนา