ต่างประเทศ
อัยการสหรัฐฯ เผยข้อมูลใหม่ 'ทรัมป์' ตั้งใจล้มผลเลือกตั้งที่เขาพ่ายแพ้เมื่อปี 63
โดย paweena_c
3 ต.ค. 2567
66 views
อัยการสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลใหม่ที่ระบุว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ใช้อำนาจในทางมิชอบ กดดันให้เจ้าหน้าที่รัฐและนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีในขณะนั้นล้มผลการเลือกตั้งที่เขาพ่ายแพ้เมื่อปี 2563
อัยการสหรัฐฯ ได้ยื่นเอกสารใหม่ที่มีความยาว 165 หน้าต่อศาลและเปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อวานนี้ (02 ต.ค. 67) ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของอัยการที่จะส่งมอบหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับทรัมป์ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากจะไม่มีการพิจารณคดีใด ๆ ก่อนที่ทรัมป์จะลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดี กับรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครต
ภายในเอกสารดังกล่าวระบุว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตั้งใจกล่าวอ้างความเท็จว่ามีการฉ้อโกงการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 และพยายามใช้วิธีการทางอาชญากรรม (resorted to crimes) เพื่อพลิกความพ่ายแพ้
เอกสารที่ยื่นต่อศาลโดยนายแจ็ค สมิธ อัยการพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำเนินคดีนี้ระบุข้อกล่าวหาที่ว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้ยินทรัมป์บอกกับสมาชิกในครอบครัวว่า “มันไม่สำคัญหรอกว่าจะแพ้หรือชนะการเลือกตั้ง แต่มันต้องสู้ต่อไปจนสุดชีวิต”
นอกจากนี้ ในเอกสารยังกล่าวหาด้วยว่า ทรัมป์พยายามกดดันนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเวลานั้นใช้อำนาจของเขาพลิกผลการเลือกตั้ง โดยในวันที่ 1 มกราคม 2564 ทรัมป์ได้บอกกับเพนซ์ว่า ผู้คนจะโกรธเกลียดคุณเข้าไส้และคิดว่าคุณโง่เขลา หากไม่ขัดขวางการรับรองชัยชนะของโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต
ทรัมป์ยังได้กล่าวสุนทรพจน์อันร้อนแรงในวันที่ 6 มกราคม 2564 ก่อนที่ผู้สนับสนุนของเขาจะบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ และปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนทำให้สมาชิกรัฐสภาต้องวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด
อัยการยังกล่าวหาว่าเมื่อผู้ช่วยประจำทำเนียบขาวบอกกับทรัมป์ที่กำลังดูข่าวการจลาจลผ่านทางโทรทัศน์ว่า ตอนนี้ เพนซ์ถูกนำตัวไปยังสถานที่ปลอดภัยแล้ว ทรัมป์ก็ตอบกลับว่า “แล้วไง?”
รายงานยังระบุว่าในเอกสารดังกล่าวมีรายละเอียดการสนทนาระหว่างทรัมป์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลของเขาด้วย ซึ่งรวมถึงนายมาร์ก เมโดวส์ (Mark Meadows) หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว
อย่างไรก็ดี โฆษกส่วนตัวของทรัมป์ได้ออกมาโจมตีการเปิดเผยดังกล่าวว่าเป็นการล่าแม่มดที่ลำเอียงและขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งควรจะถูกยกฟ้องทั้งหมด
ด้านทรัมป์ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเป็นความพยายามทางการเมืองเพื่อขัดขวางไม่ให้เขากลับมามีอำนาจอีกครั้ง
ทนายความของทรัมป์พยายามคัดค้านไม่ให้สมิธได้รับการอนุญาตให้ยื่นเอกสารดังกล่าวต่อศาล โดยให้เหตุผลว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง และคดีความทั้งหมดควรถูกยกไปตามคำตัดสินของศาลฎีกาที่ระบุว่าทรัมป์ได้สิทธิคุ้มครองช่วงดำรงตำแหน่ง