ต่างประเทศ

'นานาชาติ' แสดงท่าทีต่อคำวินิจฉัยศาลรธน. มติยุบพรรคก้าวไกล กระทบระบอบประชาธิปไตยไทย

8 ส.ค. 2567

470 views

มุมมองทั่วโลก นานาชาติออกแถลงตอบโต้ กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ สั่งยุบพรรคก้าวไกล มองกระทบระบอบประชาธิปไตยไทย



กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ออกมาแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ประเทศไทย กรณีสั่งยุบพรรคก้าวไกล ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคทั้ง 11 คนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี

และกล่าวว่า คำตัดสินนี้ทำให้ชาวไทยมากกว่า 14 ล้านคนที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566 หมดสิทธิเลือกตั้ง และตั้งคำถามเกี่ยวกับการเป็นตัวแทนของพวกเขาในระบบเลือกตั้งของประเทศไทย คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญยังเป็นอันตรายต่อความก้าวหน้าทางประชาธิปไตยของประเทศไทย และขัดต่อความต้องการของประชาชนชาวไทยสำหรับอนาคตที่เข้มแข็งและเป็นประชาธิปไตย

การมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างครอบคลุมช่วยเสริมสร้างความสามัคคีทางสังคม และเป็นองค์ประกอบสำคัญของสถาบันระดับชาติที่เข้มแข็ง สหรัฐอเมริกาไม่ได้แสดงจุดยืนสนับสนุนพรรคการเมืองใด แต่ในฐานะพันธมิตรที่ใกล้ชิดและเป็นมิตรที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งและยั่งยืน เราขอเรียกร้องให้ประเทศไทยดำเนินการเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างครอบคลุมอย่างเต็มที่อย่างแท้จริง และเพื่อปกป้องประชาธิปไตย เสรีภาพในการรวมตัวและการแสดงออก

อ้างอิง On the Dissolution of Move Forward Party in Thailand


สหราชอาณาจักร ทางกระทรวงการต่างประเทศ เครือจักรภพ และการพัฒนา หรือ FCDO  (Foreign, Commonwealth & Development Office) ออกมาตอบโต้คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไทยในการยุบพรรคก้าวไกล โดยกล่าวว่า ความหลากหลายและเสรีภาพในการพูดเป็นหลักการสำคัญของประชาธิปไตย การยุบพรรคการเมืองใหญ่อีกพรรคหนึ่งในประเทศไทยจึงเป็นอุปสรรคต่อหลักการเหล่านี้ เราขอสนับสนุนให้ทุกพรรคยึดมั่นในสิทธิและตัวแทนของประชาธิปไตย

อ้างอิง UK response to the dissolution of the Move Forward Party


สหภาพยุโรปออกมาแถลงการเรื่อง การตัดสินใจของศาลรัฐธรรมนูญแห่งประเทศไทยที่จะยุบพรรคการเมืองสำคัญอีกพรรคหนึ่ง ซึ่งก็คือ 'พรรคก้าวไกล' ระบุ นั้นถือเป็นความล้มเหลวของพหุนิยมทางการเมืองในประเทศไทย

โดยสภาพยุโรปมองว่าไม่มีระบบประชาธิปไตยใดที่จะสามารถทำงานได้หากไม่มีพรรคการเมืองและผู้สมัครหลายฝ่าย ข้อจำกัดต่างๆ ในการใช้สมาคมแสดงออกโดยเสรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านกิจกรรมและการก่อตั้งพรรคการเมือง จะต้องสอดคล้องกับบทบัญญัติ และหลักการกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง

อ้างอิง Thailand: Statement by the Spokesperson on the dissolution of the main opposition party


องค์กรฮิวแมนไรท์วอตช์ (Human Right Watch) กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญ กรณีวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 67 กรณีกล่าวหาว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง ส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อการปกครองแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงของประเทศ

ศาลรัฐธรรมนูญ 9 ตุลาการ มีมติเอกฉันท์ว่า พรรคก้าวไกลกระทำความผิดฐานกบฏ จากการเสนอให้ปฏิรูปประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และสั่งห้ามสมาชิกฝ่ายบริหารของพรรคทุกคนที่อยู่ในตำแหน่งตั้งแต่เมษายน 2564 ถึงมกราคม 2567 พักงานทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี โดยคดีนี้ยื่นโดยคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ (กกต.)

โดยทางฮิวแมนไรคส์วอตช์ (Human Right Watch) มองว่าคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งของไทยยื่นฟ้องพรรคก้าวไกลเป็นเรื่องหลอกลวงมาตั้งแต่ต้น” อีเลน เพียร์สัน (Elaine Pearson) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของฮิวแมนไรท์วอตช์กล่าว “คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกล เป็นการโจมตีอย่างรุนแรง ต่อความพยายามอันไม่แน่นอนของประเทศไทย ในการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยหลังจากการปกครองแบบเผด็จการทหารมาหลายปี”

และยังบอกอีกว่าพันธมิตรสำคัญของไทย ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ควรแจ้งให้รัฐบาลไทยทราบต่อสาธารณะว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่สอดคล้องกับการเสนอตัวเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติของไทยในปี 2568-2570

อ้างอิง Thailand: Constitutional Court Dissolves Opposition Party


นอกจากนี้องกรค์สำคัญอย่างแอมเนสตี้ (Amnesty International) บอกว่าการยุบพรรคก้าวไกลเป็น "การตัดสินใจที่ยอมรับไม่ได้" ซึ่งขัดขวางสิทธิมนุษยชน

เดโปรส มูเชนา (Deprose Muchena) ผู้อำนวยการอาวุโสของแอมเนสตี้ ตอบโต้ข่าวที่ว่าศาลรัฐธรรมนูญของไทยมีคำตัดสินสนับสนุนคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากพรรครณรงค์ปฏิรูปกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ระบุว่า

“คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่สนับสนุนให้ยุบพรรคก้าวไกลเป็นการตัดสินใจที่ยอมรับไม่ได้ ซึ่งเผยให้เห็นว่าทางการไม่ใส่ใจต่อพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนของไทยเลย

“การยุบพรรคเพียงเพราะสนับสนุนการปฏิรูปกฎหมาย ถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการสมาคมอย่างร้ายแรงต่อสมาชิกรัฐสภา ที่เพียงแต่ปฏิบัติหน้าที่ในการเสนอกฎหมาย”

“และการที่ทางการคุกคามฝ่ายค้านทางการเมืองอย่างไม่ลดละนั้น ถือเป็นการขัดแย้งอย่างรุนแรง เนื่องจากไทยได้แสดงเจตนารมณ์ต่อความเป็นผู้นำด้านสิทธิมนุษยชนในระดับโลกอย่างเปิดเผย ด้วยการยื่นคำร้องเพื่อขอที่นั่งในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ทางการไทยต้องรีบยกเลิกการยุบพรรคและหยุดใช้กฎหมายเป็นอาวุธเพื่อข่มขู่และคุกคามนักวิจารณ์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และนักการเมืองฝ่ายค้าน”

ตั้งแต่การรัฐประหารในประเทศไทย ปี 2557 เป็นต้นมา แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลพบว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อทำให้การเคลื่อนไหวอย่างสันติเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตามแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลก็ยังยืนยันว่า ตนเป็นองค์กรที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ซึ่งไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในข้อพิพาททางการเมือง และยึดมั่นอย่างเคร่งครัดต่อภารกิจของตนในฐานะองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน

อ้างอิง Thailand: Dissolution of Move Forward Party an ‘untenable decision’ that stifles human rights



คุณอาจสนใจ

Related News