สื่อญี่ปุ่นตีข่าว ปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา เปิดศึกมวยไทย vs กุน ขแมร์

จากกรณีการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ทางเจ้าภาพกัมพูชา ประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าจะไม่ใช้ชื่อ 'มวย' ในการแข่งขันครั้งนี้ และใช้ชื่อ 'กุน ขแมร์' ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ของกัมพูชาแทนนั้น

ต่อมาประเทศไทยยืนยันจะไม่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน กุน ขแมร์ รวมถึง สหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (IFMA) ประกาศจะเเบนทุกชาติที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการเเข่งขัน กุน ขแมร์ ในศึกซีเกมส์ 2023 โดยจะแบนไม่ให้เข้าร่วมแข่งขันมวยไทย หรือมวย ในอนาคตอีกต่อไป ขณะที่ทางกัมพูชาก็ตอบโต้ ด้วยการประกาศแบนมวยไทยเช่นกัน ทำให้ความขัดแย้งดังกล่าว ได้ลุกลามเป็นข้อถกเถียงในชาวโซเชียลของทั้ง 2 ประเทศ

ล่าสุดNikkei สื่อดังของญี่ปุ่น ได้นำเสนอประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า

"มวยไทย หรือ กุน ขแมร์ : เพื่อนบ้านทะเลาะกันจากเรื่องชื่อกีฬา"

ไทยและกัมพูชากำลังถกเถียงกันว่า ควรเรียกกีฬาที่มีแรงบันดาลใจจากคิกบ็อกซิ่ง สมัยใหม่ว่า มวยไทยหรือ กุน ขแมร์

มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติไทยตามชื่อ แต่กัมพูชายืนยันว่า กีฬาชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจากศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของประเทศ นั่นคือ กุน ขแมร์

ในฐานะเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในปีนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม กัมพูชาได้เปลี่ยนชื่อการแข่งขันมวยไทยเป็น กุน ขแมร์

ทางประเทศไทยไม่มีแผนที่จะส่งนักชกเข้าร่วมการแข่งขัน ในขณะเดียวกัน กัมพูชายังคงยืนกราน หรือเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ

“ตามกฎแล้ว หากมี 4 ประเทศหรือมากกว่า เข้าร่วมแข่งขัน กุน ขแมร์ ก็มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน” นายวัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการจัดงานกีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกัมพูชา กล่าวในบทความที่เผยแพร่โดยพนมเปญโพสต์

นายวัธ จำเริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า กัมพูชาจะตอบโต้ด้วยการไม่ส่งนักกีฬาคิกบ็อกซิ่ง เข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทย โดยจะจัดขึ้นทุกๆ 2 ปี ซึ่งจะมีการเปลี่ยนเจ้าภาพหมุนเวียนกันไป

ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชา ปะทุขึ้นเป็นความขัดแย้งในปี พ.ศ. 2551 จากความไม่ลงรอยกันจากปมปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นมรดกโลกของยูเนสโกที่ตั้งอยู่ใกล้พรมแดนระหว่างทั้งสองประเทศ