Netflix ฮิตน้อยลง? สมาชิกหายเกือบล้านราย

Netflix (เน็ตฟลิกซ์) แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดัง รายงานการสูญเสียสมาชิกสำหรับไตรมาสที่สองติดต่อกัน เมื่อวันอังคาร (19 ก.ค. 65) ที่ผ่านมา เนื่องจากสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ต้องต่อสู้กับการแข่งขันที่ดุเดือด และการรัดเข็มขัดของผู้ชม แต่บริษัทยังให้ความมั่นใจกับนักลงทุนว่า จะมีวันที่ดีกว่าในอนาคต

ซึ่งการสูญเสียสมาชิกที่จ่ายเงิน 970,000 ราย ในไตรมาสล่าสุดนั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าที่ควร โดย Netflix ยังมีสมาชิกถึง 221 ล้านคน

รีด แฮสติ้ง (Reed Hastings) ซีอีโอและผู้ก่อตั้งร่วมของบริษัทกล่าวว่า "มันยากที่จะบอกว่าเราประสบความสำเร็จ เมื่อสมาชิกลดลง แต่เอาจริงๆ แล้ว เราพร้อมแล้วสำหรับปีหน้า"

บริษัทกล่าวในรายงานผลประกอบการว่า คาดว่าจะมีการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินรายใหม่ 1 ล้านราย ในไตรมาสปัจจุบัน

ทั้งนี้ ถึงการรายงานผลประกอบการว่า สมาชิกลดลง แต่หุ้น Netflix ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในการซื้อขายหลังการขาย ซึ่งเป็นสัญญาณว่านักลงทุนยังคงเชื่อมั่น

ผู้บริหารของ Netflix ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า บริษัทจะเข้มงวดมากขึ้นในการแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบและรหัสผ่าน ซึ่งทำให้หลายคนสามารถเข้าถึงเนื้อหาของแพลตฟอร์มได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน

เฉิงอี้ หลง (Chengyi Long) ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กล่าวว่า "เป็นเรื่องดีที่สมาชิกของเราชื่นชอบภาพยนตร์และรายการทีวีของ Netflix มาก จนพวกเขาต้องการแบ่งปันให้กว้างขึ้น"

"แต่การแบ่งปันบัญชีอย่างแพร่หลายระหว่างครัวเรือนในทุกวันนี้ บั่นทอนความสามารถระยะยาวของเราในการลงทุนและปรับปรุงบริการของเรา"

Long กล่าวว่าฟีเจอร์การสมัครสมาชิก "add a home" ที่ Netflix เริ่มทดสอบในเดือนมีนาคมในชิลี คอสตาริกา และเปรู จะขยายไปยังอาร์เจนตินา สาธารณรัฐโดมินิกัน ฮอนดูรัส เอลซัลวาดอร์ และกัวเตมาลา มีเป้าหมายเพื่อให้ระบบการชำระเงินแบบแชร์บัญชีใช้งานได้ทั่วถึง ภายในปีหน้า

ในขณะเดียวกัน Netflix กำลังทำงานร่วมกับ Microsoft เพื่อเปิดตัวแผนการสมัครสมาชิกที่ถูกกว่าซึ่งรวมถึงโฆษณา ซึ่ง The New York Times ได้รายงานว่าอาจเปิดตัวภายในสิ้นปีนี้

Netflix เลือกที่จะพัฒนาข้อเสนอที่มีต้นทุนต่ำกว่าหลังจากไตรมาสแรกที่น่าผิดหวังซึ่งสูญเสียสมาชิกเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ  และหลังจากหลายปีของการต่อต้านแนวคิดเรื่องการแสดงโฆษณา

Microsoft จะรับผิดชอบในการออกแบบและจัดการแพลตฟอร์มสำหรับผู้โฆษณาที่ต้องการแสดงโฆษณาต่อผู้ใช้ Netflix

Netflix ลงทุนอย่างหนักในเนื้อหาต้นฉบับ (original content) เช่น รายการฮิต "Squid Game" และ "Stranger Things" เพื่อป้องกันคู่แข่งที่มีอิทธิพลอย่างดิสนีย์ ด้วยแฟรนไชส์ของมาร์เวลและสตาร์ วอร์ส

ซีซั่นที่สี่ของ "Stranger Things" ที่เพิ่งเปิดตัวมีผู้ชม 1.3 พันล้านชั่วโมงในเวลาเพียงสี่สัปดาห์ที่ Netflix ทำให้เป็นรายการโทรทัศน์ภาษาอังกฤษที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของแพลตฟอร์ม

ในขณะเดียวกัน ผู้บริหารประมาณ 284 ล้านชั่วโมง ถูกใช้ไปในการดูซีซันล่าสุดของ "The Umbrella Academy"

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ความสามารถของ Netflix ในการสร้างเนื้อหายอดฮิต มีมากแบบไม่ต้องสงสัย แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการสูญเสียสมาชิกเกือบหนึ่งล้านคนตั้งแต่ไตรมาสก่อน การแปลสิ่งนี้ไปสู่ความสำเร็จในเชิงพาณิชย์นั้น พิสูจน์ให้เห็นถึงความท้าทายมากกว่า

ความท้าทายที่ Netflix เผชิญอยู่นั้น รวมถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เนื่องจากผู้ที่ผูกพันกับบ้านซึ่งลงชื่อสมัครใช้บริการในช่วงที่การระบาดใหญ่กำลังประเมินการสมัครรับข้อมูลอีกครั้งในขณะนี้ว่าพวกเขากลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมได้แล้ว ซอนเดอร์สตั้งข้อสังเกต