ต่างประเทศ

เร่งเครื่องโค้งสุดท้าย! ศึกชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ 'แฮร์ริส' คะแนนนำ 'ทรัมป์' 1%

โดย nut_p

1 พ.ย. 2567

78 views

คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน เร่งเครื่องในการหาเสียงอย่างหนัก โดยเฉพาะในรัฐสมรภูมิ หวังโน้มน้าวผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจเทคะแนนให้กับตัวเอง ให้มากที่สุด ล่าสุด แฮร์ริส ออกโรงเตือน หากเลือก ทรัมป์ อาจโดนหั่น โอบามาแคร์ ขณะที่ทรัมป์สวนกลับบอกไม่เคยพูด



ในการแถลงข่าวสั้นๆกับผู้สื่อข่าวที่เมืองแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน ก่อนการเดินทางไปยังรัฐแอริโซนาและเนวาดา แฮร์ริส กล่าวเตือนผู้ลงคะแนนในรายการ MSNBC เมื่อวานนี้ว่า หาก ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี ได้กลับเข้าไปนั่งในทำเนียบขาว ทรัมป์และพันธมิตรจะปรับขนาดกฏหมายประกันสุขภาพที่เข้าถึงได้ (Affordable Care Act) หรือที่เรียกว่า "โอบามาแคร์" หลังจากที่ทรัมป์ เคยพยายามทำแล้วแต่ไม่สำเร็จในการยกเลิกกฎหมายนี้มาก่อน เมื่อครั้งที่เป็นประธานาธิบดี เมื่อปี 2017 -2021



ความกังวลเกี่ยวกับการที่พรรครีพับลิกันจะยุติ โอบามาแคร์ กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐลุยเซียนา กล่าวว่า พรรคมีแผนที่จะ "ปฏิรูปอย่างขนานใหญ่" และจะไม่มี "โอบามาแคร์" แต่ต่อมาภายหลังออกมาบอกกับสื่อว่า ทีมงานของแฮร์ริส "บิดเบือนความจริง" และบอกว่า เขา "ไม่ได้เสนอว่า จะยุติโอบามาแคร์"



ขณะที่ทรัมป์ ได้ออกมาสวนกลับ แฮร์ริส ก่อนที่จะเดินทางไปหาเสียง ที่รัฐแอริโซนา หนึ่งในรัฐสมรภูมิ โดยเขาได้โพสต์ข้อความ บนแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชี่ยล (Truth Social) ว่า ทุกอย่างที่ออกมาจากปากของแฮร์ริส เป็นเรื่องโกหก และที่ทำเช่นนี้ เพราะเธอกำลังจะแพ้ แพ้อย่างย่อยยับด้วย



อย่างไรก็ตาม แฮร์ริส ได้ขึ้นเวทีหาเสียงต่อที่นครลาสเวกัส รัฐเนวาดา อีก 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิ ซึ่งการขึ้นเวทีครั้งนี้ มีเจนนิเฟอร์ โลเปซ นักร้องชื่อดังที่เกิดในครอบครัวชาวเปอร์โตริโก ร่วมขึ้นเวทีแสดงพลังสนับสนุนแฮร์ริสด้วย โดยโลเปซ บอกว่า เธอเชื่อในพลังของผู้หญิง และว่าพลังของผู้หญิงจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้แตกต่างไปจากเดิม พร้อมเรียกร้องให้ชาวอเมริกันเชื้อสายลาติน ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งด้วย



โพลสำรวจความนิยมผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศล่าสุด (1 พฤศจิกายน 2567) ที่จัดทำโดย ไฟว์ เทอร์ตี้เอ้ก และ เอบีซี ชี้ว่า แฮร์ริส มีคะแนนนิยมนำทรัมป์ อยู่ที่ ร้อยละ 48 ต่อ 46.7 ส่วนอีก ร้อยละ 5.3 ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร



วันเลือกตั้งสหรัฐฯ วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไม่ได้ไปเลือกแค่ประธานาธิบดี เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการเลือกตั้งทั้งระดับประเทศอย่างสภาคองเกรสและเลือกตั้งระดับท้องถิ่นด้วย



วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ สหรัฐฯ จะมีการเลือกตั้งทั้งระดับรัฐบาลกลาง ระดับรัฐและระดับท้องถิ่น ชาวอเมริกันจะไปเลือกตั้งทั้งประธานาธิบดี, สมาชิกวุฒิสภา และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ยังมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ และสภานิติบัญญัติของรัฐด้วย



โดยสมาชิกวุฒิสภาที่เลือกตั้งในครั้งนี้มี 34 ที่นั่ง จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง ส่วนสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เลือกทั้งหมด 435 ที่นั่ง



สำหรับผู้ที่ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้ จะได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ส่วนรองประธานาธิบดีจะเป็นคนที่ 50 ของประเทศ

คุณอาจสนใจ

Related News