ต่างประเทศ

ใกล้โค้งสุดท้าย! เลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ 'มิเชล' ช่วย 'แฮร์ริส' หาเสียงชูประเด็นทำแท้ง

โดย parichat_p

27 ต.ค. 2567

22 views

การหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย 9 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายน ไฮไลท์ของการหาเสียงฝั่งเดโมแครต คือ การปรากฏตัวครั้งแรกของนางมิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง บนเวทีหาเสียงร่วมกับรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ที่เมืองคาลามาซู รัฐมิชิแกน หนึ่งในรัฐสมรภูมิชี้ขาด ซึ่งผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ผู้สมัครทั้งสองมีคะแนนที่สูสีกัน โดยแฮร์ริสนำหน้าอยู่เล็กน้อย


ประเด็นเรื่องผลกระทบต่อสิทธิการทำแท้งยังเป็นประเด็นการหาเสียงกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มิเชล โอบามา ได้ขึ้นเวทีหาเสียงช่วยแฮร์ริส โดยเตือนให้เห็นถึงอันตราย หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง มิเชลส่งข้อความไปถึงผู้ลงคะแนนที่เป็นผู้ชาย ให้ตระหนักถึงผลกระทบร้ายแรงต่ออนาคต ด้านสุขภาพของผู้หญิงจากนโยบายห้ามทำแท้งของทรัมป์ ซึ่งจะทำให้ชีวิตผู้หญิงตกอยู่ในความเสี่ยง จากการไม่ได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างเหมาะสม อีกทั้ง ยังเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดี หากผู้หญิงเหล่านี้ต้องการยาจากรัฐอื่นหรือต่างประเทศ หรือหากต้องเดินทางข้ามรัฐเพราะคลินิกในพื้นที่ปิดตัวลง


ส่วนแฮร์ริส ขึ้นเวทีและโจมตีอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อย่างดุเดือด โดยระบุว่า ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เขามีความสับสน ไม่มั่นคง และโกรธแค้นมากขึ้น และเห็นได้ชัดว่าเขาสติแตกมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ครั้งสุดท้าย อย่างน้อยก็ยังมีคนที่ควบคุมเขาได้ แต่จะสังเกตได้ว่า คราวนี้คนเหล่านั้นก็ไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว


ส่วนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ก็ไปหาเสียงที่เมืองโนวี รัฐมิชิแกน ซึ่งทรัมป์ยังคงเน้นเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาคนเข้าเมืองและพลังงาน โดยครั้งนี้ทรัมป์หวังดึงคะแนนเสียง จากกลุ่มผู้ลงคะแนนอาหรับ-อเมริกัน ด้วยการเชิญผู้นำชุมชนมุสลิม รวมทั้งนาย บิล บาซซี นายกเทศมนตรีเมืองเดียร์บอร์นไฮต์ ขึ้นปราศัยบนเวที ที่ได้ประกาศสนับสนุนทรัมป์ เนื่องจากให้คำมั่นว่า จะยุติสงครามในตะวันออกกลางและยูเครน ทรัมป์กล่าวว่า เขาเชื่อว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอาหรับ-อเมริกันสามารถ "พลิกผลการเลือกตั้ง" ได้ สำหรับความสำคัญของรัฐมิชิแกนนี้ ถือเป็นหนึ่งในรัฐสมรภูมิสำคัญที่สามารถชี้ขาด การเลือกตั้งได้ โดยมิชิแกนมีคะแนนอิเล็กทอรัล 15 เสียง โดยในการเลือกตั้งปี 2016 รัฐนี้ตกเป็นของทรัมป์ แต่การเลือกตั้งในปี 2020 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ชนะ ซึ่งช่วยผลักดันเขาเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี


ต่อมา ทรัมป์ได้เดินทางไปหาเสียงต่อที่เมืองสเตทคอลเลจ รัฐเพนซิลเวเนียและกล่าวถึงการขึ้นเวทีนักร้องสาวบียอนเซ่ ที่ประกาศสนับสนุนแฮร์ริส โดยระบุว่า กล่าวว่า ผู้คนเข้าร่วมการชุมนุมในวันนั้น ต้องการเข้ามาฟังบียอนเซ่ร้องเพลง และยังตำหนิด้วยว่า ทำไมไม่ร้องเพลงบนเวที นอกจากนี้ ทรัมป์ยังโจมตีแฮร์ริส อย่างหนักหน่วงว่า เธอเป็นคนไร้ความสามารถอย่างร้ายแรงในประวัติศาสตร์ของประเทศเรา


สำหรับผลสำรวจคะแนนนิยมทั่วประเทศ ที่จัดทำโดย ไฟว์เทอร์ตี้เอ้ก (538) และ เอบีซี นิวส์ คะแนนระหว่างแฮร์ริสและทรัมป์ ยังคงเท่าเดิมกับเมื่อวานนี้ โดยแฮร์ริสมีคะแนนนำทรัมป์อยู่ที่ 48 เปอร์เซ็นต์ ต่อ 47 เปอร์เซ็นต์


ส่วนผลการสำรวจความนิยมแห่งชาติล่าสุดของบีบีซี พบว่า แฮร์ริสนำทรัมป์อยู่เล็กน้อย แต่ถ้ามาดูในรัฐสมรภูมิ ทรัมป์นำอยู่เล็กน้อยใน 5 จาก 7 รัฐสมรภูมิสำคัญ ได้แก่ รัฐเนวาดา, เพนซิลเวเนีย, นอร์ท แคโรไลนา, จอร์เจีย , แอริโซนา ส่วนแฮร์ริสนำใน รัฐวิสคอนซิล , มิชิแกน (15)

คุณอาจสนใจ

Related News