UN ห่วงวิกฤตในกาซา หลังรพ.ทยอยปิดตัวจากปัญหาเชื้อเพลิง

การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังคงตึงเครียด และยิ่งทำให้สถานการณ์ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่เข้าขั้นวิกฤตหนัก โดย สหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เผย อาจต้องหยุดการปฏิบัติงาน ภายในคืนนี้ หากไม่มีการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในกาซา ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งในกาซา ทยอยปิดตัว และหยุดให้บริการบางส่วน เนื่องจากไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิง ตอกย้ำชะตากรรมของพลเรือนชาวปาเลสไตน์มืดมนมากขึ้น



โรงพยาบาล นาสเซอร์ ในเมือง ข่าน ยูนิส ซึ่งเป็นศูนย์การแพทย์หลักของชาวปาเลสไตน์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา กำลังจะหยุดการปฎิบัติงานบางส่วนในเร็วๆนี้ และรับแต่ผู้ป่วยเหตุฉุกเฉิน เนื่องจากไม่สามารถหาแหล่งน้ำมันเชื้อเพลิงมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ยิ่งทำให้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมเข้าใกล้ความหายนะทุกขณะ



เมื่อคืนที่ผ่านมา ยูเอ็น ระบุว่า มีโรงพยาบาล 6 แห่ง และ 2 ใน 3 ของคลินิกในกาซ่า ได้ปิดตัวลง ไปแล้ว เนื่องจากอาคารได้รับความเสียหายจากโจมตี และปัญหาขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง หลังจากที่อิสราเอล งดจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าไปในกาซ่า เพื่อตอบโต้หลังกลุ่มฮามาส เปิดปฎิบัติการโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา



ขณะที่ยูเอ็น ซึ่งเป็นองค์การให้ความช่วยเหลือที่ใหญ่ที่สุดในกาซา เตือนว่า มีความจำเป็นจะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ หากการส่งสิ่งของช่วยเหลือรอบใหม่ ซึ่งรวมถึง น้ำมันเชื้อเพลิง ยังไม่ถูกส่งเข้ามาในฉนวนกาซา ภายในวันนี้ ทั้งนี้ อิสราเอล ไม่อนุญาตให้รถบรรทุกน้ำมันเข้าไปในกาซ่า เนื่องจาก กลุ่มฮามาส ต้องการยึดน้ำมันเชื้อเพลิงเอาไว้เอง



นาย อันโตนิโอ กูเตร์เรส ผู้อำนวยการใหญ่แห่งยูเอ็น ได้ออกมาเรียกร้องให้ปกป้องพลเรือนในสงคราม ระหว่างอิสราเอล และ กลุ่มฮามาส ปาเลสไตน์ พร้อมแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับ การละเมิดกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศในฉนวนกาซ่าอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิง เพื่อเปิดทางในการส่งความช่วยเหลือมายังชาวปาเลสไตน์ ในกาซ่า



โดยขณะนี้ ไม่มีเพียงแค่ผู้เสียชีวิต และ การโจมตีทางอากาศในกาซ่าเท่านั้น แต่ทำให้ประชาชน ราว 1 ล้านคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเพื่อหนีตาย จากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ผู้คนจำนวนมากต้องอาศัยนอนอยู่ตามสนามหญ้า นอกโรงพยาบาล และตามท้องถนน



ขณะที่บรรดาผู้นำประเทศต่างๆ ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยคลี่คลายความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ล่าสุด ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ได้เข้าเฝ้าฯสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งจอร์แดน ที่กรุงอัมมาน ของจอร์แดน ในวันนี้ จากนั้นก็จะเดินทางต่อไปยังกรุงไคโร ของอียิปต์ เพื่อเข้าพบกับประธานาธิบดี อับเดล ฟาตาห์ เอล-ซีซี่ ผู้นำอียิปต์ เพื่อร่วมหารือเพื่อหาทาง ยุติการสู้รบระหว่าง อิสราเอล และ กลุ่มฮามาส



ขณะที่นายกรัฐมนตรีกาต้าร์ ร่วมแถลงกับรัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกี ที่กรุงโดฮา ของกาตาร์ ในวันนี้ แสดงความหวังถึงการปล่อยตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไป โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจา และจะมีความคืบหน้าเร็วๆนี้ ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศของตรุกี เตือน ปฎิบัติการโจมตีภาคพื้นของอิสราเอลในฉนวนกาซ่า จะนำไปสู่การสังหารหมู่



สำหรับการสู้รบระหว่างอิสราเอล และ กลุ่มฮามาส ในฉนวนกาซ่า ดำเนินเข้าสู่วันที่ 19 แล้ว กระทรวงสาธารณะสุขของปาเลสไตน์ระบุ ตอนนี้ ยอดผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เกือบแตะ 5 พัน 800 คน แล้ว โดยเฉพาะการโจมตีกาซา เมื่อวานนี้ เพียงวันเดียว มีผู้เสียชีวิตถึง 704 คน ขณะที่ผู้บาดเจ็บในกาซาทั้งหมด อยู่ที่ 1 หมื่น 6 พัน 297 คน ส่วนในอิสราเอล มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน มีชาวต่างชาติที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน อีกราว 222 คน