ต่างประเทศ

เริ่มมีหวัง! ทีมค้นหาเรือดำน้ำไททัน พบสัญญาณเคาะทุก 30 นาที เร่งหาต้นตอเสียง

โดย chiwatthanai_t

21 มิ.ย. 2566

514 views

ทั่วโลกต่างจับตาปฎิบัติการค้นหา ยานสำรวจใต้น้ำไททัน ของบริษัทโอเซียนเกต เอ็กซ์เพดิชันส์ พร้อมนักท่องเที่ยว 5 คน ที่สูญหายใต้มหาสมุทรแอนแลนติก หลังดำไปชมซากเรือไททานิก และขาดการติดต่อ ไปตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ล่าสุดเริ่มมีความหวังขึ้น เมื่อพบเสียงเคาะใต้น้ำดังออกมา ใกล้กับซากเรือไททานิก ซึ่งเป็นจุดที่ยานสำรวจใต้น้ำไททันสูญหายไป


เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ที่หน่วยกู้ภัยสหรัฐฯ และแคนาดา ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหายานสำรวจใต้น้ำไททัน ก่อนที่ออกซิเจนในเรือจะหมด หลังดำน้ำ ราว 1 ชั่วโมง 45 นาที ก็ขาดการติดต่อกับเรือโพลาร์ พรินซ์ ซึ่งเป็นเรือหลักอย่างปริศนา ในระหว่างลงไปชมซากเรือไททานิก ระดับความลึก 3,800 เมตร บริเวณนอกชายฝั่งรัฐนิวฟันด์แลนด์ ทางตะวันออกของแคนาดา ราว 600 กิโลเมตร ซึ่งการค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะพื้นที่การค้นหายานสำรวจใต้น้ำไททัน กินพื้นที่ 2 หมื่นตารางกิโลเมตร เทียบเท่าพื้นที่รัฐคอนเนตติกัตของสหรัฐฯเลยทีเดียว


ขณะที่ ยานสำรวจใต้น้ำไททัน มีความยาว 21 ฟุต สามารถจุคนได้ 5 คน เท่านั้น ภายในห้องผู้โดยสารมีขนาดเล็ก ไม่มีที่นั่ง ต้องนั่งกับพื้นและมีห้องน้ำ 1 ห้องเท่านั้น ยานสำรวจใต้น้ำไททัน สามารถอยู่ใต้น้ำได้ยาวนาน 96 ชั่วโมง หรือ 4 วัน และคาดว่าออกซิเจน จะหมดลงภายในเวลา 17 นาฬิกา วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย


อย่างไรก็ตาม หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ เริ่มมีความหวัง หลังได้รับแจ้งจาก เครื่องบินพี 3 ของแคนาดา ว่าสามารถตรวจจับเสียงเคาะใต้น้ำได้ บริเวณน่านน้ำแอตแลนติกเหนือ ในช่วงปฏิบัติการค้นหาเรือดำน้ำ"ไททัน" โดยเสียงเคาะที่ว่านี้ดังขึ้นทุกๆ 30 นาที ทันทีที่ได้ยินเสียงสัญญาณของสิ่งมีชีวิตดังกล่าว


เจ้าหน้าที่ก็เริ่มติดตั้งอุปกรณ์โซนาร์เพิ่ม เพื่อหาต้นตอของเสียงเคาะ และจนถึงขณะนี้ยังคงตรวจพบเสียงเคาะอยู่เรื่อยๆ ทำให้หลายฝ่ายหวังว่า คนในเรือดำน้ำไททัน ยังปลอดภัย และในวันพรุ่งนี้ จะส่งเรือ และ เครื่องบินเพิ่ม เพื่อช่วยในการค้นหาเรือดำน้ำในพื้นที่ที่เรือดำน้ำสูญหาย


ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์ต่างๆ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับปฎิบัติการค้นหายานสำรวจใต้น้ำไททัน ครั้งนี้ โดยนายทิม แมทลิม (Tim Matlin) ผู้ซึ่งใช้เวลาหลายปีศึกษาการจมและซากปรักหักพังของเรือไททานิก กล่าวว่า "ในบริเวณนั้นมันมืดสนิท มืดจนคุณไม่สามารถมองเห็นมือของคุณที่อยู่ตรงหน้าได้ บรรยากาศในบริเวณนั้นเหมือนอวกาศ เขาจึงเกรงว่า โอกาสที่พวกเขาจะรอดยากมาก


สำหรับเรือลำดังกล่าวมีคนอยู่บนเรือ 5 คน ประกอบไปด้วย ฮามิช ฮาร์ดิง มหาเศรษฐีนักธุรกิจการบินชาวอังกฤษ, ชาห์ซาดา ดา นักธุรกิจชาวปากีสถานและลูกชาย รวมทั้งนักสำรวจชาวฝรั่งเศส และนาย สต็อกตัน รัช ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทโอเชียนเกต เอ็กซ์พีดิชันส์ ด้วย ขณะที่ สนนราคาของนักท่องเที่ยวในการดำลงดูซากเรือไททานิก อยู่ที่ 2 แสน 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ เกือบ 9 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่ทำให้ยานสำรวจใต้น้ำไททัน ขาดการติดต่อ ยังไม่ทราบแน่ชัด ซึ่งขณะนี้หน่วยยามฝั่งสหรัฐ กำลังมุ่งเน้นในภารกิจกู้ภัยอย่างเต็มที่ก่อน


ก่อนหน้านี้ นาย เดวิด ล็อคริดจ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือดำน้ำที่เคยทำงานให้กับโอเชียน เกต บริษัทที่ดำเนินการยานสำรวจใต้น้ำไททัน ที่หายไป เคยเตือนถึงปัญหาด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น เมื่อ 5 ปีก่อนแล้ว ว่า ตัววิวพอร์ต (Viewport) ที่อยู่ด้านหน้าเรือไททัน มีความบกพร่อง หากไม่ตรวจสอบอย่างเข้มงวดและละเอียด เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตได้รับการรับรองว่า สามารถทนทานต่อแรงดันน้ำเมื่ออยู่ลึกที่ระดับ 1 พัน 300 เมตร ในขณะที่ซากเรือไททานิก ที่จมอยู่ในมหาสมุทรอยู่ที่ระดับความลึก 3 พัน 800 เมตร แต่คำเตือนของเขาก็ถูกละเลย จนกระทั่งเขาตัดสินใจเขียนรายงานในเรื่องนี้อีกครั้ง จากนั้นก็ถูกเรียกเข้าไปในที่ประชุม ซึ่งในตอนนั้นก็มีสต็อกตัน รัช (Stockton Rush) ที่อยู่ในเรือดำน้ำที่สูญหายรวมอยู่ด้วย สุดท้าย นายล็อคริดจ์ ถูกไล่ออก และถูกฟ้องจากโอเชียน เกตอีกด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News