อียู-สหรัฐฯ ยกระดับคว่ำบาตรรัสเซีย 'ไบเดน' ย้ำไม่ส่งทหารไปยูเครน หวั่นสงครามโลกครั้งที่ 3

สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา รวมถึงชาติพันธมิตรอื่น ๆ ประกาศยกระดับมาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซีย หลังจากที่กองกำลังของรัสเซียเปิดฉากโจมตีและรุกคืบเข้าใกล้กรุงเคียฟมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ย้ำว่าจะไม่ส่งทหารเข้าไปในยูเครน เพราะจะเป็นการจุดชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3



กองกำลังของรัสเซียยังคงเปิดฉากโจมตีในหลายเมืองทั่วประเทศของยูเครน เช่นที่เมืองเชอร์นิกอฟ (Chernihiv) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ทำให้ขณะนี้ ระบบสาธารณูปโภคทั้งน้ำและไฟฟ้า ไม่สามารถใช้งานได้ นายเวียเชสลาฟ เชาส์ (Viacheslav Chaus) ผู้ว่าการเมืองเชอร์นิกอฟ กล่าวผ่านวิดิโอที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ว่า กองกำลังของรัสเซียกำลังมุ่งเป้าหมายการโจมตีไปที่บริเวณที่อยู่อาศัยของประชาชน มีพลเมืองจำนวนมากเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ



เช่นเดียวกับที่เมืองวอลโนวากา (Volnovakha) ทางตะวันออกของประเทศ มีอาคารบ้านเรือนและถนนหนทางพังเสียหายอย่างหนัก จากการสู้รบกันระหว่างกองทัพยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย มีร่างของผู้เสียชีวิตรายหนึ่งนอนอยู่บนพื้นถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ



ขณะที่เมืองมาริอูโปล เมืองท่าทางตอนใต้ของประเทศ มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธใส่มัสยิด ที่มีประชาชนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หลบภัยอยู่กว่า 80 คน ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต



นอกจากนี้ ทางการยูเครนยังเผยภาพกล้องจากวงจรปิด ขณะที่ทหารของรัสเซียจับกุมตัวนายกเทศมนตรีเมืองเมลิโตปอล เมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ที่ถูกกองทัพรัสเซียยึด ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของยูเครนตำหนิว่ารัสเซียกำลังกระทำการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศด้วยการลักพาตัวนาย อิวาน เฟโดรอฟ (Ivan Fedorov) นายกเทศมนตรีเมืองเมลิโตปอล อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยถึงรายละเอียดและชะตากรรมของนายเฟโดรอฟ



ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ใกล้กับกรุงเคียฟ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเสียงระเบิดและเสียงปืนดังขึ้น โดยเฉพาะทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง มีรายงานว่า เกิดการสู้รบกันอย่างหนัก เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นเป็นระยะๆ



โดยกองทัพรัสเซียได้ยิงจรวดใส่ฐานทัพอากาศ ใกล้กับเมืองวาซิลคีฟ (Vasylkiv) ในกรุงเคียฟ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดไฟลุกไหม้อย่างหนัก โดยนายกเทศมนตรีเมืองวาซิลคีฟระบุว่า การโจมตีด้วยจรวดของรัสเซีย ยังสร้างความเสียหายให้กับคลังเก็บกระสุนที่อยู่ภายในฐานทัพแห่งนี้ด้วย



ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนกล่าวว่า สงครามกำลังมาถึงจุดเปลี่ยนทางยุทธศาสตร์ กองกำลังรัสเซียระดมโจมตีกรุงเคียฟ ครั้งใหม่และอาจมีแผนจะเข้ายึดกรุงเคียฟภายในเวลาไม่กี่วันนี้



ส่วนท่าทีของต่างชาติ เมื่อวานนี้ สหภาพยุโรปออกมาประกาศว่าจะหยุดทำการค้ากับรัสเซีย, ปราบปรามทรัพย์สินดิจิทัล, รวมถึง ห้ามการส่งออกสินค้าฟุ่มเฟือยจากสหภาพยุโรปไปรัสเซีย และการนำเข้าเหล็กจากรัสเซีย โดยมาตรการดังกล่าวนับเป็นการคว่ำบาตรชุดที่ 4 เพื่อตอบโต้รัสเซียที่รุกรานยูเครน



โดยนางเออร์ซูลา ฟ็อน เด เลเยน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าว่า สหภาพยุโรปจะทำให้รัสเซียต้องโดดเดี่ยวมากขึ้น และทำลายแหล่งทรัพยากรที่ใช้เพื่อสนับสนุนสงครามนี้ นอกจากนี้ ยุโรปยังจะหาทางเพื่อระงับสิทธิ์ของการเป็นสมาชิกของรัสเซียในสถาบันพหุพาคีต่าง ๆ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก



ขณะที่สหรัฐอเมริกาก็ประกาศแบนการส่งออกสินค้าฟุ่มเฟือยไปยังรัสเซีย รวมถึง เบลารุส โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ในทันที สหรัฐอเมริกายืนยันว่าจะเดินหน้าคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับรัสเซียให้มากขึ้นไปอีก โดยสภาของเกรสของสหรัฐฯ จะผ่านร่างกฎหมายเพื่อเพิกถอนสถานะทางการค้าของรัสเซีย



อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีไบเดน ยืนยันว่า สหรัฐฯจะไม่ส่งทหารเข้าไปในยูเครนเพื่อรบกับรัสเซีย แต่จะปกป้องประเทศสมาชิกนาโต้ และว่า นาโต้จะให้การสนับสนุนยูเครนทุกอย่าง แต่จะไม่ส่งกองกำลังเข้าไป เพราะการเผชิญหน้าระหว่างนาโต้กับรัสเซียโดยตรง นั่นหมายความว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 ได้เกิดขึ้นแล้ว