"รัสเซีย" เคลื่อนกำลังพลชุดใหญ่สู่ "กรุงเคียฟ" เตือนประชาชนรับมือการโจมตี

ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 6 แล้ว โดยในวันนี้ กองทัพรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธถล่มเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของยูเครน พร้อมกับเคลื่อนกำลังพลชุดใหญ่มุ่งสู่กรุงเคียฟ หลังการเจรจากับยูเครนรอบแรกล้มเหลว


วันนี้ กองทัพรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธใส่จัตุรัสเสรีภาพ (Freedom Square) ที่ตั้งอยู่ในเมืองคาร์คีฟ เมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของยูเครน และอยู่ติดพรมแดนของรัสเซีย รายงานระบุว่า มีระเบิดเกิดขึ้นอย่างรุนแรง อีกทั้ง ยังมีการยิงขีปนาวุธ มีรายงาน ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1 คน ด้านหัวหน้าฝ่ายบริหารระดับภูมิภาคเมืองคาร์คีฟ ออกมาเปิดเผยว่า การโจมตีครั้งล่าสุดนี้เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน และเป็นอาชญากรรมสงครามต่อพลเรือน

ด้าน นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ออกมาแถลงประณามว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นอาชญากรรมทางสงคราม โดยมีพลเมืองเป็นเป้าหมายในการโจมตี การโจมตีในวันนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อวานนี้ คณะผู้แทนรัฐบาลยูเครน ได้เข้าร่วมการเจรจารอบแรกกับทางรัสเซีย ที่เมือง ’กอเมล’ ของเบลารุส ซึ่งอยู่ติดชายแดนยูเครน ซึ่งผลก็ปรากฏว่าการเจรจายุติลงโดยไม่ได้ข้อสรุป และคาดว่าน่าจะมีการเจรจารอบ 2 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ขณะที่ประธานาธิบดี เซเลนสกี ของยูเครน ได้ยืนใบสมัครขอให้สหภาพยุโรป หรือ EU รับยูเครนไปเป็นสมาชิกผ่านขั้นตอนพิเศษ อย่างไรก็ตาม ทาง EU ระบุว่าการพิจารณาการเป็นสมาชิกของยูเครน อาจต้องใชระยะเวลาหลายปี


นอกจากนี้ ภาพถ่ายดาวเทียมของบริษัทเอกชนของสหรัฐฯ ที่บันทึกได้เมื่อวานนี้ แสดงให้เห็นว่า กองทัพรัสเซีย เคลื่อนกำลังพล รวมทั้ง ยานยนต์หุ้มเกาะหลายร้อยคัน เป็นขบวนยาว เป็นระยะทางกว่า 60 กิโลเมตร มุ่งหน้ากรุงเคียฟขณะเดียวกันยังพบกองกำลังภาคพื้นดิน และกองกำลังโจมตีเฮลิคอปเตอร์ภาคพื้นดิน บริเวณทางใต้ของเบราลุส ซึ่งห่างจากพรมแดนยูเครนไปทางเหนือ 32 กิโลเมตรด้วย



ส่วนในเรื่องของการช่วยเหลือยูเครน ชาติพันธมิตรตะวันตกหลายประเทศ ได้ประกาศจัดส่งอาวุธเข้าไปช่วยเหลือยูเครนเพิ่มเติม เช่น ฟินแลนด์ ที่ประกาศว่าได้จัดส่งปืนไรเฟิลจำนวน 2,500 กระบอก และอาวุธต่อสู้รถถังอีก 1,500 กระบอก เช่นเดียวกันกับแคนาดา ที่จัดส่งอาวุธต่อสู้รถถังและกระสุนปืน


ส่วนสถานการณ์ผู้ลี้ภัย ล่าสุด มีรายงานว่ามีชาวยูเครนอพยพไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วอย่างน้อย 5 แสนคน โดยส่วนใหญ่เดินทางไปยังประเทศโปแลนด์ เกือบ 3 แสนคน ตามมาด้วย สโลวาเกีย, ฮังการี, โรมาเรีย, และประเทศอื่นๆ ในยุโรป


ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางการยูเครนออกมาเปิดเผยว่า มีทหารรัสเซียเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5,710 นาย รวมถึงมีทหารรัสเซียถูกกองทัพยูเครนจับกุมตัวไปแล้วกว่า 200 นาย และทำลายรถถัง 198 คัน, เครื่องบิน 29 ลำ, ยานหุ้มเกราะ 846 คัน, และเฮลิคอปเตอร์ 29 ลำ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวเป็นการเปิดเผยมาจากฝั่งของยูเครนเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันความแน่ชัดได้


ล่าสุด ทางการรัสเซียออกมาประกาศเตือนประชาชนในกรุงเคียฟของยูเครน ว่าเตรียมการโจมตีเป้าหมายในกรุงเคียฟแล้ว เป้าหมายอาจเป็นศูนย์เทคโนโลยีของหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน