WHO เตือน "โอมิครอน" ระบาดเพิ่มขึ้น 2 เท่า กลายเป็นสายพันธุ์หลักแล้ว

องค์การอนามัยโลก ระบุพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ "โอมิครอน" แล้วอย่างน้อยใน 89 ประเทศทั่วโลก พร้อมเตือนว่า โอมิครอน มีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นสองเท่า ในทุกๆ 1 วันครึ่ง ถึง 3 วัน และขณะนีักลายมาเป็น สายพันธุ์หลักของการระบาด แทน เชื้อกลายพันธุ์เดลต้า ล่าสุด สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อเฉพาะสายพันธุ์นี้แล้วเกือบ 25,000 คน

กระทรวงสาธารณะสุขของสหราชอาณาจักรออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้วเกือบ 2.5 หมื่นคน หลังจากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มกว่า 10,000 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ และเชื่อว่ามีผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์นี้แล้ว 7 คน จากเดิม 1 คน ที่รายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนผู้ป่วยจากสายพันธุ์นี้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจาก 65 คน เป็น 85 คน

ทางด้านกลุ่มที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์เพื่อสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาล (Scientific Advisory Group for Emergencies) หรือ SAGE ระบุว่า "เกือบจะแน่นอน" แล้วว่าจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้แท้จริงอาจมีมากถึง 1 แสนคนต่อวัน พร้อมเตือนว่า หากรัฐบาลยังไม่มีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวด อาจทำให้จำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มเป็นอย่างน้อย 3,000 คนต่อวัน

ด้าน นายซาจิด จาวิด (Sajid Javid) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ สกายนิวส์ (Sky News) ในวันนี้ว่า รัฐบาลกำลังเฝ้าจับตาการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด และจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด พร้อมกับกล่าวว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุดพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในอังกฤษ มีประมาณ 60% เป็นเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน

องค์การอนามัยโลก แถลงเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์ใหม่ "โอมิครอน" ซึ่งถูกระบุว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล แล้วอย่างน้อย 89 ประเทศทั่วโลก พร้อมเตือนว่า โอมิครอน มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยจะเพิ่มขึ้นสองเท่า ในทุกๆ 1 วันครึ่ง ถึง 3 วัน