มหกรรมลากไส้! "ผู้กองธร" สายลับจับบ้านแย้ม เล่าหมดเปลือก เผยจุดเริ่มต้น "ทิดแย้ม" ไม่ได้ติดพนัน แต่ติดผู้หญิง

รายการโหนกระแสวันนี้ (20 พ.ค. 68) พบกับ "ผู้กองธร" สายลับที่แอบแฝงตัวในวัดไร่ขิง สืบจนได้ข้อมูลชัด นำสู่การจับ "แย้ม" อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอกเงินวัดหลายร้อยล้าน พร้อมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป.ชุดสืบสวนจับกุม และ "แพรรี่ ไพวัลย์" ที่มาร่วมพูดคุยในรายการ



ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา รอง สว.กก.5 บก.ป. เล่าวันแรกที่ได้รับภารกิจไปวัดไร่ขิง ตนนั่งสังเกตการณ์อยู่ภายในรถ 24 ชั่วโมง เพื่อเก็บรายละเอียด วันแรกที่ไปก็ทำบุญก่อน ไหว้ขอให้หลวงพ่อวัดไร่ขิงคุ้มครอง เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จากนั้นเราทำบุญเสร็จ ก็หาบัญชีในวัดให้ได้เยอะที่สุด ทั้งไปเช่าวัตถุบูชา ตู้บริจาคมีกี่ตู้ ปลอมตัวเป็นทุกอย่าง วัดมีกิจกรรมอะไรเข้าร่วมหมด



พ.ต.อ.ภัทธาวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. เล่าว่า พบเส้นเงินวัดผิดปกติ อดีตหลวงพ่อโอนไปให้ผู้หญิง มีบัญชีคนสนิทเปิดบัญชี แต่หลวงพ่อเป็นคนมาใช้บัญชีนี้ และก็โอนต่อให้ผู้หญิง ต่อมามีการสแกนหน้า หลวงพ่อเลยให้พระเอกพจน์ไปเปิดบัญชี และหลวงพ่อโอนไปให้เขา และเขาก็โอนต่อไปให้ผู้หญิง เงินที่ได้มาบางส่วนมาจากเงินทำบุญ



พ.ต.อ.ภัทธาวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. เล่าต่อว่า สีกาเก็นรู้จักทิดแย้มมานานแล้ว เพราะบ้านอยู่แถววัดไร่ขิง หลวงพ่อเคยบอกว่าถ้าเดือดร้อนเรื่องเงินให้มาหา หลวงพ่อจะช่วยเหลือ ครั้งแรกเก็นมายืมเงินประมาณ 5-6 หมื่น พอคุยกันเรื่อยๆก็มีการวิดีโอคอล เป็นคลิปที่เก็นอาบน้ำอยู่ โดยมีการอัดเสียงและคลิปไว้ หลังจากนั้นเก็นจะคอยสร้างเรื่องเรื่อย ๆ บอกติดหนี้อยู่ก้อนหนึ่ง และถูกเจ้าหนี้ยึดโทรศัพท์ไป กลัวคลิปในเครื่องจะหลุดไป ก็เลยให้หลวงพ่อช่วยโอนเงินมาให้เพื่อไปจ่ายหนี้



พ.ต.อ.ภัทธาวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. เล่าต่อว่า วัดมีรายได้หลัก ๆ 7 ทาง 1.ตู้บริจาค 2.สังฆทาน 3.วัตถุมงคล 4.ตลาดนัด 5.ขายขนมปังปลา 6.ค่าเช่าที่ธรณีสงฆ์ 7.ร้านค้าประจำปี เงินจากการเช่าร้านค้าประจำปี ตั้งแต่ปี 65-68 เก็บเงินสด 30 ล้านไว้ในกุฏิเจ้าอาวาส ทุกคนในวัดว่าหลวงพ่อนำเงินไปใช้ส่วนตัว แต่พูดไม่ได้ พอถามหลวงพ่อจะด่าทันที รวม 4 ปี เป็นเงินสดประมาณ 120 ล้านบาท



พ.ต.อ.ภัทธาวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. เล่าต่อว่า ทิดแย้มและเก็น ยังให้การขัดแย้งกันอยู่ เรื่องการใช้คลิปเป็นข้อต่อรอง จากคลิปมีการพูดไม่เหมาะสมเรื่องทางเพศ เก็นมีการเล่นพนันค่อนข้างเยอะ และนำเงินไปซื้อทรัพย์สิน ซึ่งเก็นก็มีสามีอยู่แล้ว แต่จากการสอบปากคำเบื้องต้น ไม่พบมีส่วนร่วม



แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ระบุว่า พระผู้ใหญ่หลายท่าน ท่านคิดว่าสะสมบารมีเยอะ คิดว่าไม่มีใครกล้าไปยุ่งกับท่าน พระเดี๋ยวนี้ไม่ใช่พระ เป็นมิจฉาชีพส่วนมาก เน้นในทางหาเงิน เอายอดบริจาคเยอะ ๆ แล้วตัวเองก็ยักยอกเงินวัด แบบนี้เป็นโจรในคราบพระ