เริ่มวันนี้ แบงก์ชาติยกระดับจัดการ "บัญชีม้า" หากต้องสงสัย จะโอนเงินไม่ได้

แบงก์ชาติ ยกระดับจัดการบัญชีม้าเข้มข้น เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ สั่งแบงก์พาณิชย์ระงับโอนเงินเข้า - ออกบัญชีต้องสงสัยทันที หากพบเป็นบัญชีน่าสงสัย พร้อมให้แจ้งเตือนลูกค้าทันทีว่าบัญชีต้องสัยสัย ส่วนเรื่องการรับผิดชอบความเสียหาย รอ พรก. อาชญกรรมออนไลน์ มีผลบังคับใช้ และจัดตั้งคณะกรรมกลางขึ้นมากำหนดหลักเกณฑ์การชดเชยความเสียหายที่ชัดเจน



นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แบงก์ชาติได้มีการยกระดับมาตรการเชิงป้องกัน โดยจะมีการเพิ่มความเข้มข้นและขยายผลการจัดการบัญชีม้าต้องสงสัย เพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินการได้เชิงรุกในการป้องกันความเสี่ยง และแก้ปัญหาภัยทางการเงิน



โดยการยกระดับป้องกันครั้งนี้ มี 3 ด้านด้วยกัน คือการกวาดล้างบัญชีม้าให้ได้มากขึ้น การจัดการบัญชีม้าระดับบุคคลที่เข้มข้นมากขึ้น และการขยายการจัดการในวงกว้างที่เกิดขึ้น



โดยพรุ่งนี้วันแรก ที่ให้ทุกสถาบันการเงิน ห้ามทำธุรกรรมให้ หรือห้ามโอนเงินเข้าบัญชีต้องสงสัย หากมีคำสั่งโอนเงินไป บัญชีม้า โดยหากเป็นบัญชีต้องสงสัยจะไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวได้ และธนาคารจะมีการส่งแจ้งเตือนถึงผู้ใช้บริการทางการเงิน ว่าบัญชีดังกล่าวเสี่ยงเป็นมิจฉาชีพ หรือเป็นบัญชีที่มีความเสี่ยง



และการตรวจจับบัญชีม้า หลังจากนี้สถาบันการเงินจะแชร์ข้อมูลบัญชีม้า และบัญชีต้องสงสัยร่วมกันทั้งระบบได้ เพื่อให้เห็นบัญชีต้องสงสัยทั้งระบบร่วมกัน จากเดิมที่ แบงก์ไม่สามารแชร์ข้อมูลร่วมกันได้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากบัญชีม้าในอนาคต เพื่อสกัดความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ทันถ่วงที่ ทั้งการระงับการโอนเงินเข้า ระงับการโอนเงินออก และห้ามเปิดบัญชี หากมีพฤติกรรมสงสัยว่า เสี่ยงเป็นบัญชี "ม้า" ดำ ม้าน้ำตาลเข้ม ม้าเทาต่างๆ



นอกจากนี้ หากตรวจพบว่า ผู้ใช้บัญชีเงินฝาก เมื่อมีเงินเข้าบัญชีแล้ว แต่มีพฤติกรรมการโอนเงินออกไปสู่บัญชี "คริปโท" ประจำ หรือเมื่อมีเงินเข้ามาแล้ว โอนออกไปบัญชีคริปโทอย่างรวดเร็ว ส่วนนี้ อาจต้องสงสัย เป็น ’บัญชีม้า’ หรือนำไปสู่การสั่งระงับ การห้ามโอนเงินออกได้ เพื่อป้องกันเงินไหลออกนอกระบบ ป้องกันเงินไหลออกไปต่างประเทศ



พร้อมยกระดับการเปิดบัญชีใหม่ให้ยากมากขึ้น ป้องกันการสวมรอย และหากมองว่าธุรกรรมการเปิดบัญชีใด มีความไม่ชัดเจน อาจไม่อนุญาตให้เปิดบัญชี หรือมีการกำหนดเงื่อนไขในการทำธุรกรรมผ่านบัญชี หรือไม่อนุญาตให้สามารถใช้บัญชีได้ตั้งแต่วันแรก เป็นต้น



ส่วนเรื่องการรับผิดชอบความเสียหาย รอ พรก. อาชญกรรมออนไลน์ มีผลบังคับใช้ และจัดตั้งคณะกรรมกลางขึ้นมากำหนดหลักเกณฑ์การชดเชยความเสียหายที่ชัดเจน ทั้งนี้ ธปท. เห็นว่าการแก้ไขปัญหาภัยทุจริตทางการเงินให้ได้อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งธนาคาร ผู้ให้บริการโทรคมนาคม รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการ ที่ต้องรับผิดชอบในหน้าที่ตามขอบเขตมาตรฐานที่ผู้กำกับดูแลกำหนดไว้อย่างชัดเจน หากฝ่ายไหนละเลยการปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด ควรที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น (Shared responsibility) โดยแบงก์ชาติจะประกาศกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบที่ธนาคารพึงปฏิบัติให้ชัดเจน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกับผู้กำกับดูแลด้านอื่น ๆ ต่อไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/CvRRkBLYWhU

โดย panwilai_c